ทำความเข้าใจและรับมือโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNN เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 กรกฎาคม 2564) ดร. แอนโทนี่ เฟาซี กล่าวว่า เนื่องจากคนอเมริกันราวครึ่งหนึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า

จึงเป็นการแพร่ระบาดในหมู่คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ทำให้อเมริกามีสภาพอยู่ 2 แบบ คือส่วนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ที่มีจุดอ่อนมาก และส่วนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ที่ค่อนข้างได้รับการป้องกัน
รัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำในเรื่อง การสวมหน้ากากอนามัย แม้จะมีการหารือกันระหว่างทำเนียบขาวกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ในประเด็นที่ว่า ควรแนะนำอย่างเป็นทางการหรือไม่ที่ว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ควรจะสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในอาคาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
นางโรเชลล์ วาเลนสกี้ (Rochelle Walensky) ผู้อำนวยการศูนย์ CDC กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า จะแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่แพร่ระบาดในต้นปี 2020 สายพันธุ์เดลต้าเป็นหนึ่งในไวรัส ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อผ่านระบบทางเดินหายใจได้มากที่สุด ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น สหรัฐฯเองยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้อยู่
แต่นางโรเชลล์ วาเลนสกี้กล่าวว่า ข่าวดีก็คือวัคซีน 3 ชนิดที่ผ่านการรับรองในสหรัฐฯ สามารถป้องกันการเกิดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ข้อมูลจากหลายมลรัฐระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา 99.5% ของการเสียชีวิตจากโควิด-19 เกิดขึ้นกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
อะไรคือโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า
บทความชื่อ The Covid-19 Delta Variant: What to Knowของ webmd.com กล่าวว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ที่อินเดีย ทุกวันนี้ เดลต้ากลายเป็นสายพันธุ์หลัก ที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้ ได้แพร่ระบาดไปแล้ว 74 ประเทศ แม้ว่าจะเพิ่งค้นพบไวรัสนี้ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สายพันธุ์เดลต้าสามารถแพร่ะระบาดในอัตรา 30-100% ที่มากกว่าสายพันธุ์แอลฟา
นักวิจัยด้านไวรัสยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ทำไมสายพันธุ์เดลต้าจึงแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ส่วนหนึ่งเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของโปรตีน ที่ห่อหุ้มตัวไวรัส อาจทำให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้น งานศึกษาในระยะแรกเห็นว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสเป็นสายพันธุ์เดลต้า อาจทำให้ไวรัสนี้เข้ากันได้ดีกับเซลล์มนุษย์ ทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น จนระบบภูมิคุ้มกันของคนเรา ไม่สามารถรับมือกับเชื้อตัวนี้
บทความของ The Washington Post ชื่อ What you need to know about the highly contagious delta variant กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขเห็นว่า เดลต้าคือสายพันธุ์ที่มี “คุณสมบัติเหมาะที่สุด” ของโคโรนาไวรัส หมายความว่า…
เดลต้าสามารถเอาชนะสายพันธุ์อื่นของโควิด-19 ในการทำให้คนติดเชื้อมากขึ้น เจ็บป่วยมากขึ้น และเป็นสายพันธุ์ที่โจมตีแหล่งที่เชื้อเข้าไปอาศัยอยู่ (host) ได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่น
ทำไมเดลต้าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล
บทความของ The Washington Post กล่าวว่า การวิจัยเบื้องต้นระบุว่า สายพันธุ์เดลต้าทำให้เกิดการติดเชื้อมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์แอลฟา ที่พบในอังกฤษ ส่วนสายพันธุ์แอลฟาทำให้เกิดการติดเชื้อมากกว่า 50% เทียบกับสายพันธุ์อู่ฮั่น ที่พบในจีนเมื่อปลายปี 2019
แม้จะมีหลักฐานว่าสายพันธ์เดลต้า ทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อมูลอยู่จำกัดในเรื่องที่ว่า สายพันธุ์เดลต้าทำให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ โรงพยาบาลของสหรัฐฯ ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า รายงานว่า มีคนไข้ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคนมากขึ้น แต่สิ่งนี้อาจเป็นเพราะว่า คนกลุ่มนี้มีการฉีดวัตซีนในจำนวนที่น้อยกว่า
วัคซีนป้องกันเดลต้าได้ผลหรือไม่
บทความ The Washington Post กล่าวว่า จากข้อมูลของสหรัฐฯและประเทศอื่น วัคซีน 3 ชนิดที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน จากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ สามารถป้องกันการเกิดอาการที่รุนแรง และการเสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลต้า แต่ว่าให้การป้องกันน้อยลงจากอาการเพียงเล็กน้อยและปานกลาง
William Moss อาจารย์ด้านระบาดวิทยาของ John Hopkins University บอกว่า จุดนี้คือสิ่งที่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างแท้จริง เพราะเป้าหมายอันดับแรกของเรา ในความพยายามให้มีการฉีดวัคซีน คือการป้องกันอาการติดเชื้อที่รุนแรง ป้องกันการเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิต
ส่วนวารสาร The New England Journal of Medicine ก็เพิ่งเปิดเผยรายงานการศึกษาล่าสุดว่า การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ทั้ง Pfizer-BioNTech และ AstraZeneca สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้า การฉีดวัคซีน Pfizer 2 เข็ม จะให้การป้องกันได้ถึง 88% จากอาการที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้า เทียบกับ 94% ที่สามารถป้องกันได้จากสายพันธุ์แอลฟา ส่วนการฉีดวัคซีน AstraZenaca 2 เข็ม จะได้ผล 67% ในการป้องกันจากสายพันธุ์เดลต้า ลดลงจาก 75% ที่วัคซีนนี้ สามารถป้องกันจากสายพันธุ์แอลฝา
งานวิจัยนี้ยังกล่าวว่า การฉีดวัคซีนเข็มเดียว จะมีผลในการป้องกันน้อยกว่าฉีด 2 เข็ม โดยวัคซีนเข็มเดียวของ Pfizer ได้ผลในการป้องกัน 36% ส่วนวัคซีนเข็มเดียวของ AstraZeneca ได้ผลเพียง 30% สำหรับวัคซีน AstraZeneca ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สหรัฐฯ
แต่รายงานการศึกษานี้ ขัดแย้งกับข้อมูลเบื้องต้น ที่เปิดเผยโดยกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลที่ว่า วัคซีน Pfizer ได้ผลเพียง 64% ในการป้องกันอาการโรคที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้า แต่ผู้สังเกตการณ์ก็กล่าวว่า ข้อมูลของอิสราเอลเป็นเพียงการสังเกตุการณ์ ไม่ใช่ผลของการศึกษาวิจัย
เดลต้าจะกระทบสหรัฐฯอย่างไร
เนื่องจากคนอเมริกัน 160 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว ดังนั้น ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าจะไม่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขคาดการณ์ว่า จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปะทุขึ้นมาในชุมชน ที่มีการฉีดวัคซีนในอัตราที่ต่ำ การระบาดดังกล่าวนี้ จะทำให้เกิดความเสี่ยงแก่คนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว และคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
ดร. แอนโทนี่ เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า เขามีความกังวลต่อสายพันธุ์เดลต้า เพราะจะนำไปสู่สภาพของ “สองอเมริกา” คือคนกลุ่มใหญ่ที่ได้รับการป้องกันจากการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่สูง กับคนอีกกลุ่มที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ คนกลุ่มหลังนี้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ที่ระบาดได้ง่าย สิ่งนี้จะทำให้เกิดสภาพ “สองอเมริกา”
ประชาชนจะป้องกันตัวอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพกล่าวว่า คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ยังจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และหาทางให้ฉีดวัคซีนเร็วที่สุด แม้ CDC ไม่ได้แนะนำให้คนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจะยังคงสวมหน้ากาก เพราะวัคซีนจะให้การป้องกันที่สูง ส่วนดร. แอนโทนี่ เฟาซีบอกว่า แต่ละคนก็ต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเอง ในเรื่องที่สวมหรือไม่สวมหน้ากาก โดยพิจารณาจากอายุ สุขภาพ และสภาพแวดล้อม
นาง Mariangla Simao ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ประชาชนยังต้องป้องกันตัวเอง ความเป็นไปได้ของการติดเชื้อ แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปริมาณไวรัสที่ไหลเวียนในชุมชน จุดนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมพนักงานสาธารณสุขของอินเดีย แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังมีการติดเชื้อ ทั้งนี้เพราะพวกเขาเผชิญกับเชื้อไวรัสจำนวนมาก
สำหรับความเสี่ยงของเด็กจากสายพันธุ์เดลต้า ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขแนะนำว่า เนื่องจากเดลต้าสามารถแพร่เชื้อง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น เด็กจึงเสี่ยงมากขึ้นที่จะติดเชื้อ ในสหรัฐฯเด็กอายุ 12 ขวบขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีน แต่เด็กอายุ 2 ปี หรือมากกว่านี้ จะต้องสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในพื้นที่ของอาคารรวม เด็กต้องหมั่นล้างมือด้วยสบู ไม่อยู่ใกล้คนที่มีอาการไอและจาม และปฏิบัติตามคำแนะนำของ CDC
ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ด้านโมเลกุลชื่อ Eric Topol กล่าวว่า หากเรายังไม่ติดโควิด ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่สวมหน้ากาก เรากำลังสร้างปัญหาให้กับตัวเองแล้ว เพราะเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า จะมองหาเราจนพบ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมาก ในการค้นหาสิ่งที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ ดังนั้น หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน การสวมหน้ากากคือสิ่งที่สำคัญสุด ณ เวลานี้
Source: ThaiPublica

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"