แบงก์รัฐเร่งชำแหละลูกค้า “พักหนี้” เล็งจัดมาตรการอุ้มเฉพาะกลุ่ม

หลังมาตรการพักหนี้เป็นการทั่วไปของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จบลง บรรดาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐต่างมีมาตรการช่วยเหลือให้ “พักหนี้” ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มาตรการที่ต่ออายุออกมากำลังใกล้สิ้นสุดอีกรอบ

ซึ่งแต่ละแบงก์ได้เตรียมแนวทางดูแลลูกค้าไว้แตกต่างกันไป

“นายวิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า มาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 มีลูกค้าเข้าร่วมกว่า 1.065 ล้านล้านบาท โดยจะไม่ขยายเวลาพักหนี้ออกไปอีก
แต่ธนาคารจะเข้าไปจัดกลุ่มลูกหนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มสีเขียว เป็นกลุ่มที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 2) กลุ่มสีเหลือง กลับมาชำระหนี้ได้บางส่วนไม่เต็มจำนวนที่ต้องจ่าย และ 3) กลุ่มสีแดง เป็นกลุ่มที่มีปัญหา ไม่สามารถชำระหนี้ได้
“ขณะนี้เราอยู่ระหว่างการพิจารณาแต่ละกลุ่มว่ามีจำนวนเท่าไหร่ โดยจะได้ข้อสรุปช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้”
ทั้งนี้ สิ่งที่แบงก์จะดำเนินการ คือ กลุ่มสีเขียว จะให้ชำระหนี้ไปตามปกติ กลุ่มสีเหลือง จะพิจารณาพักชำระเงินต้นให้ 6 เดือนถึง 1 ปี ชำระเฉพาะดอกเบี้ย ส่วนกลุ่มสีแดง จะให้ชำระดอกเบี้ยอย่างเดียว 25-50% ซึ่งจะมีการประเมินผลลูกค้ารายนั้น ๆ ต่อไป
“แม้แบงก์จะไม่ได้ขยายมาตรการพักชำระหนี้ต่อ แต่ก็จะมีมาตรการเข้าไปดูแลหลังสิ้นเดือน ธ.ค. ซึ่งมาตรการที่เราจะเข้าไปดูแลลูกค้าจะย่อยมาก ๆ” นายวิทัยกล่าว
ขณะที่ “นายฉัตรชัย ศิริไล” กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า การพักหนี้ให้ลูกค้าของ ธอส.ยังเหลือกลุ่มสุดท้าย ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในเดือน ม.ค.นี้ โดยมีลูกค้าที่เข้าร่วมกว่า 9 หมื่นล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวคาดว่ามีกลุ่มที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติประมาณ 4-5% หรือประมาณ 3,600 ล้านบาท
ซึ่งธนาคารเตรียมออกมาตรการที่ 9 เพื่อรองรับกลุ่มที่ลุกขึ้นจ่าย แต่จ่ายไม่ครบงวด โดยจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด)ธนาคารพิจารณาภายในเดือน ม.ค.นี้
“กลุ่มที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาจ่ายหนี้ได้ เรามองว่าสามารถบริหารจัดการได้เพราะยังไม่ถือว่าเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ดังนั้น เราต้องเร่งเข้าไปดูแล ส่วนผู้ที่จ่ายไม่เต็มงวดก็ต้องเข้าไปดูสาเหตุว่ามาจากอะไร จำเงินงวดไม่ได้หรือมีแรงแค่นี้ โดยกลุ่มนี้ ธอส.ก็จะมีมาตรการเข้าไปรองรับเหมือนกัน ซึ่งจะเสนอเข้าบอร์ดในเดือน ม.ค.นี้ด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว
ส่วน “นายสมเกียรติ กิมาวหา” รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ของ ธ.ก.ส.จะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2564 โดยธนาคารได้คัดกรองลูกหนี้ตามนโยบาย ธปท. ข้อมูลล่าสุด ณ 30 พ.ย. 2563 ได้ทบทวนศักยภาพความสามารถในการชำระเงินคืนของลูกค้าเกษตรกรแล้วราว 1.52 ล้านราย
พบว่ามีกลุ่มสีเขียว ที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 376,433 รายหรือ 25% กลุ่มสีเหลือง ที่กลับมาชำระหนี้ได้ แต่ไม่เต็มจำนวน 898,868 ราย หรือ 59% และกลุ่มสีแดง กลับมาชำระหนี้ไม่ได้ 248,147 ราย หรือ 16%
“แนวทางบริหารจัดการดูแลลูกหนี้ คือ เราต้องลงไปพบลูกค้าทุกรายก่อน 31 มี.ค. 2564 เพื่อเป็นการตรวจสุขภาพทางการเงินของลูกค้า ถัดจากนั้นจะมีโปรแกรมให้เลือก ถ้าลูกค้าในกลุ่มสีเขียวและกลุ่มสีเหลืองสามารถชำระดอกเบี้ยได้ก็จะให้เข้าโครงการชำระดีมีคืน ที่คืนดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 20% หรือสูงสุด 5,000 บาทต่อราย โดยหากกลุ่มสีเหลืองสามารถชำระหนี้ตามโครงการได้ก็จะกลับเข้ามาเป็นกลุ่มสีเขียวได้”
ส่วนลูกหนี้กลุ่มสีแดง ธนาคารจะมีคณะกรรมการบริหารจัดการหนี้เพื่อเข้ามาพิจารณาศักยภาพการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งหากลูกค้ากลับมาชำระหนี้ไม่ได้ก็จะเข้าสู่กระบวนการตัดหนี้สูญและปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มสีแดงนี้บางส่วนได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาช่วยเหลือตามความสามารถของลูกค้า
จะเห็นได้ว่าแบงก์รัฐก็พยายามดูแลลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้นไม่ได้เหวี่ยงแหเหมือนเดิม ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดมากขึ้นเพื่อรับมือกับวิกฤตที่ยังไม่สิ้นสุด
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"