ธ.กลางออสเตรเลีย มองยังไม่จำเป็นต้องมีสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มองว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องมีเงินดิจิทัลแห่งชาติ เหตุชาวออสเตรีเลียยังแฮปปี้กับการใช้เงินสด พร้อมมองข้อเสียหากออก CBDC อาจทำให้ต้นทุนการระดมทุนของแบงก์สูงขึ้น

สำนักข่าวท้องถิ่นออสเตรเลีย เผยว่า ในรายงานการชำระเงินล่าสุด ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia : RBA) ได้แสดงถึงความระมัดระวังและยังมีข้อสงสัยต่อสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDCs) เช่นเดียวกับสเตเบิ้ลคอยน์ของภาคเอกชน
RBA ไม่เชื่อว่าขณะนี้ออสเตรเลียจะต้องมีนโยบายที่เข้มข้นในการออก CBDC แต่ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของแพลตฟอร์มการชำระเงินใหม่แบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพของประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้นในขณะที่การใช้เงินสดในการทำธุรกรรมกำลังลดลงอย่างกว้างขวาง แต่การใช้ธนบัตรของชาวออสเตรเลีย กลับไม่ได้ลดลงโดยเร็วเหมือนกับพลเมืองประเทศอื่น ๆ เช่น ชาวสวีเดน
ในเอกสารระบุว่า ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ความต้องการเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ธนาคารกลางออสเตรเลีย จึงให้คำมั่นที่จะให้การเข้าถึงธนบัตรยังคงมีอยู่ต่อไปตราบเท่าที่ชาวออสเตรเลียต้องการ
เอกสารของธนาคารกลางได้วิเคราะห์โครงการริเริ่ม ในสวีเดน แคนาดาและจีนซึ่งเป็น 3 ประเทศที่มีการพัฒนา CBDC เชิงรุกมากที่สุด
ในกรณีของสวีเดน RBA ตั้งข้อสังเกตว่าการลดลงของการใช้เงินสดนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเวลาหลายปีแล้ว กระตุ้นให้ Riksbank พัฒนาและทดสอบ e-krona ที่มีศักยภาพ
ขณะเดียวกันธนาคารแห่งแคนาดา ได้เตรียมพร้อมสำหรับการออก CBDC สำหรับประชาชนทั่วไปเมื่อถึงเวลาที่ต้องการ แคนาดามองเห็น 2 สถานการณ์ที่การออก CBDC อาจกลายเป็นข้อได้เปรียบ นั่นคือการลดลงของความนิยมใช้เงินสดในการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน หรือภัยคุกคามต่อนโยบายการเงิน จากการใช้งานอย่างกว้างขวางของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยภาคเอกชน
ในส่วนนี้ RBA เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนของสกุลเงิน เช่น Libra ของ Facebook โดยตั้งข้อสังเกตว่า Libra จะได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับและเริ่มใช้งานได้หรือไม่
สำหรับประเทศจีน RBA ได้คาดการณ์ว่าแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลัง CBDC เชื่อมโยงกับความแพร่หลายของผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของภาคเอกชน เช่น Alipay และ WeChat Pay
RBA มองว่า CBDC อาจมีข้อเสียที่มีนัยสำคัญต่อประเทศรวมถึงต้นทุนการระดมทุนที่สูงขึ้นสำหรับธนาคารพาณิชย์ เพราะปัจจุบันธนาคารหาแหล่งเงินทุนประมาณ 60% มาจากเงินฝาก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นเงินฝากออมทรัพย์หรือเผื่อเรียก
ดังนั้น การสูญเสียเงินฝาก อาจผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องพึ่งพาการระดมทุน จากส่วนของผู้ถือหุ้นและตลาดทุนในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนเงินของธนาคารเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ขนาดงบดุลลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น CBDC สามารถเพิ่มโอกาสในการดำเนินการในระบบธนาคารในกรณีที่เกิดสถานการวิกฤตทางการเงิน กล่าวคือ ผู้ฝากเงินเกิดความกังวลและไม่มั่นใจในระบบการเงิน อาจจะแห่ขอโอนเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์จำนวนมากไปยัง CBDC ได้
Source: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

คลิก

เพิ่มเติม
- No need for central bank digital currency in Australia says Reserve Bank

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
--------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"