“ประท้วงฮ่องกง คือแผนไล่นักลงทุน ทำลายแม่น้ำการเงิน ปิดประตูสินค้าจีน”

... “ฮ่องกง คือประตูหรือแม่น้ำการเงินของจีน” เป็นแหล่งพักเงินจากธนาคารนานาชาติ นักลงทุน กองทุนทั่วโลกมาแวะพักก่อนจะขนเงินเข้าไปลงทุนในจีน หรือออกจากจีนไปต่างประเทศ เป็นจุดแข็งเพิ่มเติมที่พัฒนาขึ้น

จากในอดีตเป็นแค่เมืองท่าขนส่งสินค้าเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่สมัยราชวงศ์ชิง

... “ข้อดีของฮ่องกง” คือเป็นเมืองที่เสียภาษีต่ำ ดีกว่าหลายเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน​ เช่น โตเกียว หรือ สิงคโปร์ ทำให้เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดนักลงทุนให้เข้าไปมากขึ้น ประกอบกับระบบกฏหมายไม่ขึ้นกับพรรคคอมมิวนิสต์ และการศึกษาจะต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เปิดกว้างมากกว่า ภาษาอังกฤษเก่งกว่า วิถีชีวิตในเมืองสอดคล้องกับนักลงทุนตะวันตก ทำให้ฮ่องกงเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของ “เส้นทางการเงินโลก” ที่จะมาแวะพักลงทุน และรัฐบาลจีนใหญ่ก็ไม่เข้ามาแทรกแซงนโยบายการเงินภายในฮ่องกงมากนัก แม้ว่าจะเป็นของจีนตามเดิมในปี 1997 แล้วก็ตาม ยิ่งยังทำให้ฮ่องกงคือเมืองหลวงทางการเงินของเอเชียตะวันออก

... ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้ฮ่องกงเกาะเล็กๆ แต่กลับมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ลำดับที่ 35 ของโลก ด้วยมูลค่าจีดีพี 373,000 ล้านดอลล่าร์ต่อปี และมี “ตลาดหุ้น” ขนาดใหญ่อันดับ 7 ของโลก ที่มูลค่า 30.4 ล้านล้านดอลล่าร์ จากตัวเลขเมืองเดือนธันวาคมปี 2018 และในปี 2017 ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีมูลค่า “การส่งออกและนำเข้า” ที่ใหญ่อันดับ 10 ของโลก ( จากตัวเลขปี 2017 ) ซึ่งส่วนใหญ่ก็ติดต่อกับ จีน ดังนั้น สินค้าจาก “จีน” มากกว่า ร้อยละ 40 ที่จะขายไปทั่วโลกนั้นล้วนต้องผ่านที่ด่านที่นี้ ดังนั้น “ฮ่องกง จึงเหมือนซุ้มประตูหลักที่เปิดสู่จีน”

... “ฮ่องกง” มีระบบการจัดการการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างประเทศหรือโลจิสติก ที่ทันสมัย ทั้ง สนามบินขนาดใหญ่ ท่าเรือทันสมัยพื้นที่จัดเก็บสินค้าได้มากเพียงพอ ระบบราง ถนนหนทาง และระบบการจัดการบริหารตรวจสอบที่นำสมัย

... และความสำคัญที่สุดคือ “ฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมการค้าระหว่าง จีนกับอเมริกา” ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา ที่จีนสร้างตัวเองให้เจริญเติบโตขึ้นมาได้ก็เพราะผ่านเกาะแห่งนี้

... ดังนั้น “การทำลายฮ่องกง ก็คือการทำลาย ประตูและสะพานไปสู่จีน” คือการขัดขวางการพัฒนาของจีน

... ถ้า “ฮ่องกง” มีปัญหา “จีน” ก็ต้องกระทบตามไปด้วย “กระแสน้ำแห่งเงินตรา สินค้า รายได้ ก็จะสะดุด ติดขัด” ดังนั้น “ฮ่องกง” จึงคือเป้าหมายที่สำคัญในการทำลายความเจริญเติบโตของประเทศตะวันตก

... แต่ “ฮ่องกง” ก็มีปัญหาภายในเหมือนเมืองทุนนิยมขนาดใหญ่ทั่วไปคือ “ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชากรสูงมาก” ความมั่งคั่งของเกาะทั้งหมดนั้นไปกระจุกตัวอยู่ที่เครือข่ายคนกลุ่มเล็กๆชั้นสูงเท่านั้น แต่คนระดับต่ำๆยังมีชีวิตลำบากเหมือนเดิม

... ดังนั้นหนึ่งใน “ชนวนระเบิดที่จุดติดง่ายในการประท้วง ก็คือปัญหาความเหลื่อมล้ำ” ของฮ่องกงเอง ที่โดยเนื้อหาหลักแล้วเป็นปัญหาของ “ระบบทุนนิยมโลก” ที่เป็นกันทั่วโลก ไม่ได้เกิดจากนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเลย​ ซึ่งพรรคเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาจีนประกาศให้ดินแดนนี้เป็นอีกระบบตามนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบมาตลอดนับตั้งแต่ 1997” แล้ว และตามสัญญาที่ทำไว้กับอังกฤษเมื่อปี 1984

... แต่ “จีน”ก็รู้มานานแล้วว่า ฮ่องกงนั้นเปราะบางในการถูกทำลาย จึงได้พยายามหาทางออกไว้แล้ว หนึ่งในนั้นก็คือ “การสร้างเซี่ยงไฮ้ให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่แทน” ดังจะเห็นว่ามีการสร้างตลาดซื้อขายทองคำ น้ำมันที่นั่น รวมทั้งพยายามให้มีการกระจายการซื้อขายทั้งตลาดหุ้น และการขนส่งแวะพักสินค้าให้ผ่านที่สนามบินหรือท่าเรือที่ฮ่องกงให้น้อยลงตามลำดับ เมืองท่าอื่นๆในฮ่องกงได้พัฒนาระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคของตัวเอง ทั้งสนามบิน ระบบราง ถนนหนทาง ท่าเรือ ที่แวะพักสินค้า โกดังขนาดใหญ่ โรงงาน เพื่อจะเข้ามาแข่งขันกับฮ่องกงด้วย เพื่อลดความผูกขาดและอำนาจของฮ่องกงลง ( แต่ก็ถูกระเบิดเมืองท่าเทียนสินเมื่อ ปี 2015 เป็นการทำลายระบบขนส่งสินค้าและคมนาคมของจีน ) และแนวโน้มนี้ก็มีมากขึ้นเป็นลำดับ โดยตอนนั้น “ตลาดหุ้นของเสินเจิ้น กับ เซี่ยงไฮ้ ก็เติบโตจนมาเป็นศูนย์กลางทางการเงินในการค้าขายขนถ่ายกับฮ่องกง” ในส่วนภายในประเทศ

... นอกจากนั้นข้อเสียของฮ่องกงก็คือ เมืองสะพานเชื่อมนี้ ต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากโดยเฉพาะอาหาร เช่นข้าวและเนื้อ สินค้าการเกษตรฮ่องกงผลลิตได้เองเพียงแค่ ร้อยละ0.1 เท่านั้นของจีดีพี

... “ประท้วงทำลายฮ่องกงอย่างไร ?”
นอกจากเรื่องการทำให้ฝูงหมาป่า นายธนาคาร นักลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดเงินตรา กองทุนต่างๆฝูงแตกบินหนีจากฮ่องกงแล้ว เช่นตอนนี้มีการคาดว่า “ตลาดหุ้น ที่สิงคโปร์ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ หรือแม้แต่เสินเจิ้น ที่กำลังปฏิรูปกฏหมายของตัวเองเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเช่นกัน อาจจะรับส้มหล่น ในการประท้วงในครั้งนี้ได้ ถ้าแก้ไขกฎหมายหรือปรับนโยบายบางอย่าง เช่น การปรับลดภาษี หรือ การเปิดเสรีทางการเงิน ควบคุมให้น้อยลง นอกจากนั้น ยังทำให้การขนส่งสินค้าอาจจะหนีไปเมืองท่าอื่นๆ ยังทำลายการท่องเที่ยวด้วย เพราะ “การท่องเที่ยวก็มีค่าร้อยละ 5 ของจีดีพี” การประท้วงจึงทำลายฮ่องกงหมดตัว

... “จีน” นั้นเตรียมตัวมานานแล้วว่า “ฮ่องกง” คือเป้าหมายสำคัญที่อ่อนแอในการโจมตี ตั้งแต่ปี 1992 ก่อนจะมอบเอกราชคืนให้กับจีนนั้น “อเมริกา” ก็ได้ออกกฎหมาย US-Hong Kong Policy Act 1992 , ที่ตีค่าว่า ฮ่องกง เป็นดินแดนที่ไม่ขึ้นกับจีน ดังนั้น มันจึงง่ายต่อการจะถูกทำลายให้สะพานเชื่อมระหว่างทั้งฮ่องกงและจีนถูกทำลายลง และก่อนการส่งมอบเกาะฮ่องกงในปี 1997 นั้น ในปี 1984 ทั้ง “จีนและอังกฤษ” ได้ทำสัญญาตกลงกันว่า จีนจะยังปล่อยให้ฮ่องกงเป็นระบบเสรีแบบเดิมตามที่ตะวันตกนิยมและไม่แทรกแซงไปจนกว่าจะถึงปี 2047 ซึ่งในวันนั้นจีนอาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แทรกแซงทุกอย่างตามใจจีนได้

... ซึ่งตรงนี้เอง ประเทศตะวันตกมากมายกลัวว่าผลประโยชน์ในประเทศตัวเองจะหายไป จึงต้องการแทรกแซงและขัดขวางดังกล่าว จนอเมริกาได้ออกกฎหมายในปี 1992 พระราชบัญญัตินั้นมีนโยบายข้อความว่า “ให้อำนาจประธานาธิบดีอเมริกาในการออกคำสั่งพิเศษระงับสิทธิพิเศษบางส่วนหรือทั้งหมดของฮ่องกงได้ หากฮ่องกง ไม่มีอิสระในตัวเองเพียงพอที่จะให้เป็นไปตามเนื้อหาภายใต้กฎหมายเฉพาะของอเมริกา” ( เป็นกฏหมายแทรกแซงจีนอย่างชัดเจน อเมริกาจึงไม่ใช่ประชาธิปไตย เลือกตั้งเพื่อเอาเปรียบทั่วโลก )

... “การทำลายฮ่องกง คือ ส่วนหนึ่งของสงครามการค้า” ที่ประเทศตะวันตกต้องการสกัดการเจริญเติบโตของจีน นอกเหนือจากกรณีจับตัวลูกสาวหัวเหว่ย หรือห้ามบริษัทตะวันตกขายชิปให้กับโทรศัพท์หัวเหว่ย และอื่นๆ และจีนก็จะปกป้องฮ่องกง ประตูและสะพานนี้อย่างสุดชีวิตและตอบโต้อเมริกาคืนอย่างแน่นอน

.... In 1992, the United States Congress passed the US-Hong Kong Policy Act, which treats the city as a separate entity from mainland China. The law grants Hong Kong economic and trading privileges, including access to sensitive technologies and the free exchange of the US dollar with the Hong Kong dollar.

คลิก

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"