“เฟด จนตรอกจะพิมพ์เงินคิวอีจากอากาศเข้าระบบอีกครั้ง ต่ออายุตลาดหุ้น”

... หลังจากประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว เพื่อกระตุ้นการลงทุนโดยหวังจะให้นักลงทุนเห็นดอกเบี้ยต่ำจะได้กู้เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น หรือไปลงทุนสร้างกิจกรรมทางธุรกิจ ที่จะทำให้เกิดการสร้างงานและเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ครั้งนี้เฟดก็ออกมาย้ำแนวทางนี้อีกโดยจะพิมพ์เงินออกมาในระบบอีก เพื่อจะซื้อ “ตั๋วเงินคลัง” เพื่อให้นักลงทุนมีดุลบัญชีดีขึ้น บาล้านซ์ชีทที่สวยงามขึ้น เพื่อจะเอาเงินไปเล่นในตลาดหุ้นหรือไปลงทุนได้

... ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า “เฟด” จะกลับมาออกมาตรการพิมพ์เงินคิวอีเข้าระบบเงินโลกอีกครั้งเหมือนเมื่อระหว่างปี 2008 – 2014 ที่เอาเงินไปซื้อหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินต่างๆมาเก็บไว้กับตัวเอง จนดุลบัญชีของติดลบตัวแดง เพราะไปซื้อหลักทรัพย์เน่าของนักลงทุนที่จะล้มละลายมาเก็บไว้

... และหลังจากปี 2015 ที่เริ่มขึ้นดอกเบี้ยมาอย่างช้า ทำให้เฟด วางแผนว่าถ้าเศรษฐกิจอเมริกาดี จะเริ่มจัดการหนี้ตัวแดงในดุลบัญชี หรือ Unwind Balance Sheet เสียที

... แต่ก็มีคำถามว่าพวกเขาจะลดหนี้ในดุลอย่างไร จะมีใครมาซื้อหนี้ไร้คุณภาพเหล่านั้น และยิ่งกว่านั้นเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา พวกเขาลดดอกเบี้ยลงอีก ประกอบกับทรัมป์ร้องขอ ทั้งร้านสะดวกซื้อปิดกิจการไปมาก ส่อความจริงว่า เศรษฐกิจอเมริกายังไม่ฟื้นคืนสภาพปรกติจริง พวกนักลงทุนเขายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการพนันและเก็งกำไรในตลาดหุ้น มีทางเดียวที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก็คือ “การพิมพ์เงินใหม่มาจ่ายหนี้เก่า” เพราะถ้าปล่อยให้พันธบัตรครบอายุรัฐบาลก็ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้เจ้าหนี้อีก เป็นภาระในอนาคตอันใกล้ต่อไป พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงการให้ครบวาระแล้วรัฐบาลหาเงินมาจ่าย เฟดจึงจะชิงรีบซื้อหนี้ส่วนนี้ไปก่อน

... เหมือน “กู้หนี้ใหม่มาจ่ายหนี้เก่า” หรือ “เปิดบัตรเครดิตใหม่มาจ่ายบัตรเก่า” รีไฟแนนซ์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจนช็อตไปต่อไม่ได้

... เศรษฐกิจของอเมริกาที่เราเห็นไม่ได้รวยจากการสร้างสินค้าบริการขายได้กำไรมาสร้างประเทศ แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการสร้างหนี้มาซื้อรถ ซื้อบ้าน สร้างถนนหนทาง

... ในเดือนพฤษภาคมปี 2018 มีการประกาศออกมาว่าเฟดจะใช้วิธีการควบคุมที่ค่อยเป็นค่อยไปในการคลี่คลายงบดุลบัญชี Unwind Balance Sheet ปล่อยหนี้เก่าเช่นหลักทรัพย์กระทรวงการคลัง “ปล่อยออกหรือขายออกไป” ที่ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน และปล่อยขายหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อค้ำประกัน ประมาณ 4 พันล้านดอลล่าร์ต่อเดือน “ และจากนั้นจะเพิ่มปริมาณการปล่อยหนี้ออกขึ้นทุกๆสามเดือน” แต่ที่ผ่านมาหนึ่งปี ไม่ได้ผลเลย

... สุดท้ายข่าวเมื่อ 11 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา “อเมริกา” ก็ประกาศว่า ในเร็วๆนี้ พวกเขาจะกลับมาพิมพ์เงิน “คิวอีอ่อนๆ” อีกครั้ง หลังจากหายหน้าไป 4 ปี

... โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2019 “เฟด” ประกาศว่าวางแผนที่จะซื้อ “ตั๋วเงินคลัง” ซึ่งเป็นตราสารหนี้ภาครัฐที่มีอายุสั้นกว่าหนึ่งปี ซึ่งวางแผนว่ามีอัตราเริ่มต้น ประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์จากกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน 2019 นี้ จากนั้นจะปรับทั้งเวลาและปริมาณการซื้อตั๋วเงินคลังให้มากขึ้น "ตามความจำเป็นเพื่อรักษาปริมาณสำรองสำรองไว้อย่างเพียงพอ" ทำให้เงินไหลเวียนในระบบอย่างเพียงพอ การซื้อจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยถึงไตรมาสที่สองของปี 2020

... เงินจากการคิวอีครั้งก่อนหน้านั้น 2008 – 2014 นั้น ไปกองเป็นฟองสบู่ในตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้นมากกว่าจะไปสร้างกิจกรรมทางธุรกิจจริง สร้างงานจริง พฤติกรรมของนักลงทุนไม่เคยเปลี่ยนไป เข้าไปเพื่อเก็งกำไรมากกว่า สังเกตได้จากสัดส่วนราคากำไรจากการประกอบการกับราคาหุ้นยังต่ำ แปลว่า หุ้นราคาแพงสูงแต่กำไรจากการประกอบการต่ำมาก เป็นการเก็งกำไรปั่นกันไปมาของนักลงทุนอย่างแท้จริง

... “เฟด” อ้างว่าพวกเขาต้องทำหลังจากตลาดหุ้นตกต่ำและปั่นป่วนในเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา เมื่อนักลงทุนเทขายหุ้นในตลาดหุ้นที่ผันผวนไปมา เพื่อไปซื้อพันธบัตรระยะยาว และไปตลาดอื่นๆ รวมทั้งเก็บเงินไว้เตรียมซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่กำลังจะออกใหม่ และเตรียมเงินไว้จ่ายภาษีประจำปี ทำให้เงินดอลล่าร์ขาดแคลนในระบบ, จนทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสิบปีตกลงมากจนกลายเป็นเส้นกราฟ Inversion

... การออกข่าวจะซื้อหนี้ “ตั๋วเงินคลัง” ในครั้งนี้เฟดอ้างว่ามันไม่ใช่คิวอี แต่นักวิเคราะห์บอกว่ามันก็เหมือนๆคิวอีเพราะ “ถ้าว่ายน้ำแบบเป็ด ร้องเหมือนเป็ด ก็ไม่ต่างจากเป็ด”

... และหลังจากจะซื้อพันธบัตรระยะสั้นหรือตั๋วเงินคลังแล้ว แผนต่อไปคือจะซื้อพันธบัตรเพื่อสร้างดุลบัญชีให้ดีขึ้น

... ซึ่งการลดดอกเบี้ยลง รวมทั้งปล่อยคิวอีอ่อนออกมาแบบนี้ ก็สามารถจะทำให้เงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง หรือ เงินเฟ้อได้ ทำให้ราคาสินค้าบริการในอเมริกาอาจจะแพงขึ้นได้ ทำให้การบริโภคของประชาชนในประเทศตกต่ำอีก ดังนั้นจึงต้องป้องกันไว้ด้วย ซึ่งวิธีเดียวที่ทำมาโดยตลอดที่จะทำให้เงินดอลล่าร์ไม่เฟ้อหรืออ่อนค่า ก็ต้องทำให้มี “สงคราม” หรือ “ความขัดแย้งต่อไปในทั่วโลก” เพื่อจะทำให้ทั้งราคาน้ำมันและเงินดอลล่าร์ยังแข็งค่า ไม่อ่อน ไม่เฟ้อ ทุกชาติยังอยากเก็บไว้ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศต่อไป

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"