หลังจากถูกช้อร์ตเซลล์มาตลอดนับเป็นปีๆ ราคาทองคำก็เริ่มมีการขยับตัวมาจนขึ้นสูงถึง $1,510 เช้านี้ ..ราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะมีการเทขายสัญญาล่วงหน้าจำนวนมหาศาลแบบ naked contracts ในตลาดฟิวเจอร์
..ราคาตกแต่ก็กลับสูงขึ้นในเวลาเกือบจะทันที แสดงถึงพลังบางอย่างที่เหนือกว่าการขายชอร์ตที่คุมราคาในตลาดมาตลอด
ธนาคารกลางหลายประเทศมีการแปลงเงินรีเสิร์ฟดอลล่าร์ในคลังของตนเป็นทองคำ นี่ทำให้ความต้องการดอลล่าร์ลดไปมากและไปเพิ่มดีมานด์ทองคำ ...ปริมาณทองคำที่มีอยู่เริ่มไม่พอกับออร์เดอร์ในขณะที่เอ้าท์พุทใหม่ๆจากเหมืองก็ออกมาไม่ทันต่อดีมานด์ นี่อาจเป็นสาเหตุของราคาที่สูงขึ้น
ในช่วงตลอดหลายปีของการทำ Quantitative Easing ...อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์ของสหรัฐได้รับการปกป้องจากธนาคารกลางของทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ อียู โดยการพิมพ์เงินตามเพื่อไม่ให้สกุลเงินของพวกเขาเหล่านั้นแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์
Federal Reserve จำเป็นต้องป้องกันค่าเงินดอลล่าร์เพื่อให้มันยังคงบทบาทเป็นเงินรีเสิร์ฟของโลกต่อเนื่องไป ..เพราะถ้าดอลล่าร์เสียบทบาทนี้ไป สหรัฐก็ไม่อาจพิมพ์เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายง่ายๆได้อีก ถ้าดอลล่าร์สูญค่าเมื่อเทียบกับสกุลอื่นเมื่อไหร่ ปริมาณมหาศาลของมันก็จะไม่มีธนาคารกลางแห่งใดต้องการถือไว้อีกต่อไป
ปัญหาของค่าเงินดอลล่าร์ที่ยังคงอยู่ก็คือ..ตกต่ำเมื่อเทียบกับทองคำ ..การแทรกแซงค่าเงินในตลาดเงินอย่างเดียวคงไม่พอ ตลาดทองคำก็ต้องมีการแทรกแซงด้วย นั่นคือการขายสัญญาล่วงหน้าทองคำ..เพื่อสร้างซัพพลายเทียมให้กดราคาทองเอาไว้ ...ที่ต่างไปจากการขายชอร์ตหุ้นคือ ทองคำไม่จำต้องมีการ cover ก็ได้ ...นี่ทำให้การกำหนดราคาในตลาด gold future ทำได้ง่ายเพราะสามารถส่งมอบเป็นเงินสดได้เมื่อครบกำหนด แต่ไม่ใช่ส่งมอบ physical gold
ดังนั้น คู่สัญญาจึงเพิ่มซัพพลายของทองกระดาษในตลาดฟิวเจอร์ได้ตามต้องการ ..เมื่อใดก็ตามที่มีการดั๊มพ์ขายสัญญาจำนวนมากในตลาด ราคาทองคำก็จะดิ่งลงทันที ...เรื่องนี้ทำกันมาเป็นปกติมาจนทุกวันนี้
ถ้าจะไม่มีใครต้องการดอลล่าร์อีก ...ก็จะทำให้ Federal Reserve ประสบความยุ่งยากในการช่วยให้งบประมาณรัฐบาลสหรัฐขาดดุลได้ ...และก็ไม่สามารถคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเอาไว้ได้ด้วย ....ถ้าธนาคารกลางชาติต่างๆจะย้ายเงินรีเสิร์ฟจากดอลล่าร์ (พันธบัตรและตั๋วเงินระยะสั้นสหรัฐ) ไปเป็นทองคำ ดีมานด์ที่จะซื้อพันธบัตรหนี้ของรัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สอดคล้องกับซัพพลาย... ซัพพลายพันธบัตรเพิ่มขึ้นมากเพราะงบประมาณขาดดุลถึง $1.5 ล้านล้าน ...Federal Reserve มีหน้าที่ต้องปิดแก้ปจำนวนหนี้ที่เพิ่มจากพันธบัตรขายไม่ออกเหล่านี้ไว้เอง ..พูดอีกอย่างหนึ่งคือ Fed ต้องพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อซื้อหนี้ที่ไม่มีใครรับนี้ไว้เอง
การเพิ่มขึ้นของเงินดอลล่าร์ ในขณะที่มีแรงกดดันทำให้แรงกดดันในทางลบเพิ่มขึ้น ..การปกป้องค่าดอลล่าร์ก็คือต้องทำให้มันน่าเชื่อถือต่อนักลงทุนและแบ้งค์ชาติอื่นๆ โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรง ...แต่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยอย่างนี้ ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีแต่จะทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นอีก
ด้วยราคาทองคำที่สูงขึ้น ยังจะมีใครอยากถือสกุลเงินที่เสื่อมค่าลงทุกวันแถมยังให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ..หรือเป็นศูนย์..หรืออาจติดลบด้วยซ้ำ อีกหรือ?
Federal Reserve อาจจะนึกไม่ถึง..ว่าวิกฤติที่ตัวเองทำเอาไว้กำลังจะเกิดขึ้น ...และแถมยังทำสิ่งตรงข้ามอีกคือ Fed กำลังรับคำสั่งพวกอิลิทให้ทำลายทรัมพ์ให้ได้ โดยทำลายเศรษฐกิจให้พังก่อนถึงฤดูเลือกตั้งที่จะถึง
Dr. Paul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสมัยปธน.รีแกน เมื่อปี 1981
Dr. Paul Craig Roberts writes on his blog, Paul Craig Roberts Institute for Political Economy, where this article was originally published. He is a frequent contributor to Global Research.
By Dr. Paul Craig Roberts Aug 7, 2019
Cr.Sayan Rujiramora
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you