มอร์แกน สแตนลีย์มองหุ้นทั่วโลกซบเซาเนื่องจากมีความท้าทายมากขึ้น และได้ลดการลงทุนในหุ้นทั่วโลกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี พร้อมแนะนำให้ “ลดน้ำหนักการลงทุน“ ชี้แนวโน้มหุ้นในช่วงสามปีข้างหน้าแย่เป็นพิเศษ ขณะเดียวกันผลการศึกษาของอินเวสโคชี้

กองทุนบริหารความมั่นคั่งของรัฐบาลเลี่ยงลงทุนในยุโรป หันลงทุนในเอเชียและตลาดเกิดใหม่

บทวิเคราะห์ของนักกลยุทธ์มอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งรวมถึง แอนดรูว์ ชีทส์ ระบุว่า ยังคงมีการประมาณการกำไรในแง่บวกมากเกินไปในขณะที่ภาคการผลิตทั่วโลกยังคงถดถอยลง และมีการคาดการณ์ไว้สูงว่านโยบายเงินของธนาคารกลางจะผ่อนคลายลง ซึ่งจะหนุนราคาหุ้นที่สูงขึ้นอยู่แล้วได้เพียงเล็กน้อย

นักกลยุทธ์ของมอร์แกน สแตนลีย์มองว่า ตลาดมองในด้านบวกมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่ผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงกำลังชี้ โดยการถดถอยลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ทั่วโลกชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจมหภาคมีความเสี่ยงในด้านลบมาก

หลังจากที่หุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวขึ้นในปีนี้ 16% นักกลยุทธ์จำนวนหนึ่งกำลังมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นเมื่อมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผลตอบแทนพันธบัตรได้แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปีในหลาย ๆ ส่วนของโลกเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ ซึ่งชี้ว่า มีความต้องการสินทรัพย์หลบภัยอย่างแข็งแกร่ง

นักกลยุทธ์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ชอบหุ้นในญี่ปุ่นมากกว่าหุ้นในสหรัฐฯ และประเทศกำลังพัฒนาโดยได้จัดสรรการลงทุนเพิ่มต่อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเกิดใหม่และตลาดญี่ปุ่น

“รายได้คงที่ในตลาดเกิดใหม่จะไม่มีภูมิคุ้มกันแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ แต่คิดว่ามันจะทำได้ดีกว่าและ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นปรับตัวลงช้ากว่าผลตอบแทนพันธบัตรสำคัญในยุโรปและน่าสนใจในแง่การบริหารความเสี่ยงของสกุลเงิน” นักกลยุทธ์มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าว

ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษาของบริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ “อินเวสโค” ชี้ว่า นักลงทุนที่เป็นกองทุนบริหารความเสี่ยงของรัฐบาล เกือบสามเท่าตัวมีแผนการที่จะเพิ่มความเสี่ยงในตลาดเกิดใหม่มากกว่าในยุโรปในปีนี้เนื่องจากความน่าสนใจของยุโรปลดลงเพราะว่ามีความเสี่ยงทางการเมืองมากขึ้นและเศรษฐกิจโตลดลง

ผลสำรวจพบว่า กองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาล ไม่ชอบลงทุนในยุโรป โดยเกือบหนึ่งในสามได้ลดจำนวนเงินลงทุนที่ได้ตั้งไว้สำหรับทวีปยุโรปเมื่อปี 2561 และมีแผนการที่จะลดเพิ่มอีกในจำนวนที่คล้ายกันในปีนี้

อเล็กซ์ มิลลาร์ หัวหน้าฝ่ายสถาบันยุโรปและตะวันออกกลาง (EMEA) ของอินเวสโค กล่าวว่า ผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปติดลบมากและประมาณการเติบโตค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ ดังนั้นในมุมมองของการลงทุน ความน่าสนใจของยุโรปจึงลดน้อยลง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างมากเกี่ยวกับการเมืองในยูโรโซนและการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit)

ท่าทีที่เปิดกว้างต่อการดำเนินนโยบายเงินที่ไม่รุนแรงของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ ได้ทำให้พันธบัตรมาตรฐานของยุโรปเข้าสู่แดนลบ ซึ่งทำให้เกิดการตามล่าผลตอบแทนอีกครั้ง และการเมืองในยุโรปก็กำลังส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

ผลการศึกษาพบว่าเบร็กซิตมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการลงทุนแก่นักลงทุนที่เป็นกองทุนรัฐบาล 64% ขณะที่การเมืองภายในยูโรโซนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนของกองทุนเพื่อความมั่งคั่งของรัฐบาล 46% ผลที่ตามมาคือ มีกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลเพียง 13% เพิ่มการลงทุนในยุโรป เทียบกับที่มี 40% เพิ่มการลงทุนในเอเชีย และมี 36% ที่เพิ่มการลงทุนในตลาดเกิดใหม่

แม้มีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แต่ผลสำรวจชี้ว่า จีนจะเป็นสุดหมายปลายทางในการลงทุนที่ถือว่าน่าสนใจมากขึ้นในช่วงสามปีข้างหน้าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ผลสำรวจของอินเวสโค ได้อิงการสัมภาษณ์กองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลและผู้จัดการทุนสำรองของธนาคารกลาง 139 แห่ง ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 20.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยพบว่า กองทุนเหล่านี้เข้าไปลงทุนในพันธบัตรมากกว่าหุ้นจนกลายเป็นสินทรัพย์ใหญ่สุดในพอร์ตลงทุน โดยมีการลงทุนในพันธบัตรเฉลี่ย 33% เพิ่มจาก 30% ในปี 2561 ผลสำรวจยังพบว่า กองทุนเพื่อการบริหารความมั่งคั่งได้รับผลตอบแทน 4% ในปี 2561 เทียบกับ 9% ในปี 2560

Source: ข่าวหุ้น

- Global stocks slide on dimming prospects for sharp U.S. rate cut

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you