Judy Shelton ซึ่งเป็นผู้ที่ทรัมพ์เตรียมเสนอชื่อเป็นหนึ่งใน board ของ Federal Reserve ได้ออกมาพูดถึง Fed

เมื่อสองสามวันก่อน อยากรู้จักประวัติของเธอว่ามีอะไรที่ทรัมพ์ไว้ใจพอที่จะให้มารับตำแหน่ง Bill: ..... Judy Shelton อยู่ในทีมที่ปรึกษาของทรัมพ์ตั้งแต่ตอนหาเสียงชิง ปธน. แล้ว ....ผมเคยติดตามมาตั้งแต่ปี 2003 เมื่อเธอพูดถึงการรีเซ็ทของระบบการเงินในเวลานั้น

โดยมี SDR มาแทนที่ดอลล่าร์ ...เธอพูดถึงราคาทองคำที่ $10,000/oz ...อย่าลืมว่านี่คือปี 2003 ราคาทองคำยังอยู่ที่ $400/oz เท่านั้น ....เธอเข้าใจดีว่าปริมาณเงินมันมาก แต่ยังน้อยกว่าปัจจุบัน..อีกมาก

4:15 Dave......นี่คือสิ่งที่เธอพูดไว้เมื่อวานกับ Financial News ว่า "สิ่งที่ Fed ทำลงไปเป็นอันตรายมากกว่าที่จะแก้ปัญหา ทำไมคนไม่ถึงโหล ประชุมกันปีละแปดครั้งเพื่อกำหนดต้นทุนของเงินทุนว่าควรเป็นเท่าไหร่ ...Fed ไม่ใช่ผู้รู้จริงว่าอัตราดอกเบี้ยต้องอยู่ที่เท่าไหร่"

Bill...... เรื่องนี้เป็นมาตั้งแต่ตอนเริ่มก่อตั้ง Fed เมื่อปี 1913 แล้ว เพราะก่อนหน้านั้น ตลาดจะเป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยกันเอง ไม่ใช่ใครจะมากำหนดในลักษณะเผด็จการแบบ soviet style

7:15...... ผู้บริหารเบอร์หนึ่งและเบอร์สองของ Plunge Protection Team (ทีมที่ตั้งขึ้นโดย ปธน.รีแกนเพื่อพยุงราคาหุ้นถ้าตกเกิน 10% ...ผู้แปล) ลาออกพร้อมกันสัปดาห์นี้

Bill.......ใช่ครับ ต้องถามว่าทำไม และทำไมต้องตอนนี้ ..พวกเขาคงรู้แล้วว่ามันเกินกว่าที่จะควบคุมได้แล้ว ไม่อยากอยู่ตอนที่ตลาดพังลงนั่นแหละ

.....trade war กำลังจะเปลี่ยนไปเป็น currency war ที่จะนำไปสู่การรีเซ็ท ...มันคล้ายกับเรื่องที่เกิดเมื่อยุค '30s มีการใช้ภาษีนำเข้า (tariff) กีดกันการค้ากัน ...สาเหตุมาจาก cashflow ไม่พอที่จะมาจ่ายหนี้ที่มี ..มันเกิดไปทั่วโลกพร้อมกัน ...ประเด็นคือ เมื่อมีหนี้มากเกินไปก็ต้องหารายได้มาให้มากพอที่จะจ่ายดอกเบี้ย เมื่อเศรษฐกิจมันเลวลง ก็ไม่มีการเติบโตพอมาจ่ายได้ ทางแก้คือแต่ละประเทศพยายามลดค่าเงินจนเป็นการต่อสู้กัน

.....เหตุการณ์ปัญหาการเงินเมื่อครั้ง Great Depression ตอนปลายปี 1930 เป็นตัวอย่างของลักษณะงูกินหางตัวเอง ตอนนั้นสหรัฐแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มภาษีไปอีก มันช่วยยืดเวลาการพังทลายไปได้จนถึงปี 1933-1934 ..มาฟื้นตัวอีกครั้งปี 1937 และ Fed ก็ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก สิ่งที่เกิดตามมาคือสงครามโลกครั้งที่สอง...

11:45 Dave......คุณมองถึงเศรษฐกิจและการเงินของโลกในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าอย่างไร

Bill.....ผมคิดว่าสิ่งที่เราเห็นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการย้อนเริ่มต้นของเหตุการณ์เดือนธันวาคมอีกครั้ง ตอนนั้นจีนมีการปล่อยให้ทุนเข้าท่วมระบบจน Fed ไม่อาจขึ้นดอกเบี้ยได้ ...ครั้งนี้ก็คงไม่ใช่แค่ Fed แต่อาจเป็นธนาคารกลางทั่วโลกเลยที่จะต้องเกิดปัญหาจนต้องทำ QE กันอีกครั้ง

16:40 Dave..... เมื่อพูดถึงรีเซ็ท เราพอจะบอกได้ไหมจากเหตุกาณ์ทางการเงินทั่วโลกปัจจุบันว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว

Bill..... ที่จริงมีสองเรื่องที่พอจะเห็นได้ เรื่องหนึ่งเกิดเมื่อวันศุกรกับอีกเรื่องเมื่อวานนี้ ทั้งสองเรื่องเกิดที่มาเลเซีย วันศุกรมาเลเซียเรียกร้องให้มีการใช้สกุลเงินใหม่ที่แบ้คค่าด้วยทองคำสำหรับการซื้อขายกันในเอเซีย ...อีกเรื่องคือการกล่าวหาว่าการสอบสวนของเนเธอร์แลนด์เรื่องเครื่องบินของมาเลเซียที่ถูกรัสเซียยิงตกว่าเป็นการหลอกลวง

มาเลเซียคงไม่ได้พูดถึงเรื่องระบบการเงินที่แบ้คด้วยทองคำเองหรอกถ้าไม่ใช่จีนดันหลัง และอีกเรื่องก็น่าจะมีรัสเซียแบ้คให้พูด ..นี่น่าจะเป็นการบอกได้ว่ารีเซ็ทมันใกล้มากแล้ว

Cr.Sayan Rujiramora

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"