... เรื่องที่ 1 , ที่ขัดแย้ง “นิโคลัสมาดูโร่” ประธานาธิบดีเวเนซุเอล่าไม่รับสินบนจากพี่น้องโคช์”... “พี่น้องโคช์คือใคร ?... ”โคช์สอุตสาหกรรม” Koch Industries, เป็น บริษัท ข้ามชาติอเมริกันที่ตั้งอยู่ใน Wichita, แคนซัส บริษัทย่อยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ
“การผลิต การกลั่น และการจัดจำหน่ายปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ พลังงาน” รวมทั้งไฟเบอร์ตัวกลางและพอลิเมอร์ แร่ธาตุ ปุ๋ยเยื่อและกระดาษ อุปกรณ์เทคโนโลยี เคมีการค้า การเงิน การค้าสินค้าโภคภัณฑ์และการลงทุน โดยโคช์สเป็นเจ้าของ Invista, Georgia-Pacific, Molex, Flint Hills Resources, Koch Pipeline, ปุ๋ย Koch, แร่ Koch, บริษัท Matador Cattle, และ Guardian Industries
... บริษัทนี้ มีพนักงาน 120,000 คนใน 60 ประเทศโดยมีธุรกิจราวครึ่งหนึ่งอยู่ในอเมริกา บริษัท เป็นเจ้าของที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในน้ำมันทราย อาทาบาสกา
... “พี่น้องโคช์ส” ในความหมายคือสองพี่น้องคนสำคัญ Charles Koch และ David H. Koch เป็นบุตรชายของ “เฟร็ดซี. โคช์” บิดาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเครือ ”โคช์สอุตสาหกรรม” ซึ่งเป็น บริษัท เอกชนที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน “อเมริกา” ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าของหุ้น 84% ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1940 พ่อเขาได้พัฒนา “เรื่องธุรกิจน้ำมันและการกลั่น” , หลังจากซื้อส่วนแบ่งของพี่น้องอีกสองคนพวกเขา เขาทั้งคู่ก็ได้เป็นผู้ควบคุมธุรกิจของครอบครัวที่พวกเขาสืบทอดมาจากพ่อของพวกเขาและมูลนิธิครอบครัวโคช์ส
... “ส่วนกิจกรรมทางการเมือง” ของพี่น้อง Koch รวมถึงอิทธิพลทางการเงินและการเมืองต่ออเมริกาของ Charles G. และ David H. Koch ก็มีให้เห็นทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านองค์กรการเมืองและนโยบายสาธารณะที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา
... “พี่น้องโคช์” ได้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับ “นักเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม” และให้กับผู้สมัครพรรครีพับลิกัน “พี่น้องโคช์” ให้คำมั่นว่าจะใช้เงิน 889 ล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนคนกลุ่มนั้น เช่นกลุ่ม Cato Institute, ที่ผู้ร่วมก่อตั้งคือ เป็นนักคิดนักออกวาทะกรรมนโยบาย Edward H. Crane and Murray Rothbard ที่เป็นคณะกรรมการในมหาวิทยาลัย George Mason
... พวกเขาได้สนับสนุนแนวคิดเรื่องการปรับงบดุลงบประมาณของรัฐบาลโดยการลดงบกลาโหมลงและเพิ่มภาษีเงินได้มากขึ้น
... “พี่น้องโคช์ในเวเนซุเอล่า”
... “เกรก ปาลาสท์” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอิทธิพลอเมริกาในลาตินอเมริกา ได้บอกว่า สาเหตุที่อเมริกาต้องล้ม “นิโคลัส มาดูโร่” ก็เพราะว่า ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของ “เวเนซุเอล่า” นี้เป็นคนตรงซื่อสัตย์ ไม่โกงกิน “ไม่รับสินบน” จากบริษัทน้ำมันของพี่น้องโคช์จากอเมริกา แบบที่เขาเคยทำสำเร็จ ที่อาเซอร์ไบจันและคาซัคสถาน โดยโอนเงินผ่านธนาคารสวิส, พวกเขาจึงต้องทำการปล้นประเทศเวเนซุเอล่ากลางวันแสกๆ โดยการดันนายฮวน กว่ายโด่ อดีตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันในอเมริกา เป็นประธานาธิบดีกำมะลอเฉพาะกิจ ที่เป็นใครจากไหนก็ไม่รู้
... โดยในการตกลงกันนั้นถ้าผู้นำประเทศนิโคลัส มาดูโร่, รับเงินใต้โต๊ะสินบนจากบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่พวกเขาก็จะโอนเงินสินบนให้โดยแลกกับการมอบแหล่งน้ำมันสมบัติของประชาชนในชาติในประเทศเวเนซุเอล่าไปให้กับบริษัทน้ำมันของพี่น้องโคช์ของอเมริกา, แต่นายมาดูโร่ไม่ขายตัวและขายสมบัติชาติ เขาต้องการเก็บแหล่งน้ำมันให้เป็นของชาวเวเนซุเอล่า, พี่น้องคู่นี้ไม่พอใจมาก จึงต้องการกำจัดเขาออกจากตำแหน่ง, ส่วน ทรัมป์นั้นเป็นแค่หุ่นเชิดของบริษัทน้ำมันที่เดินตามที่พวกเขาสั่งแค่นั้น
... “เรื่องที่ 2 , ที่ขัดแย้ง กับบริษัทน้ำมันเอ๊กซอน”
...เรื่องเกิดในปี 2007 ราคาน้ำมันแพงขึ้น “เวเนซุเอลา” เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่ทำโดย บริษัท น้ำมันระหว่างประเทศซึ่งจะทำให้ PDVSA ( รัฐวิสาหกิจน้ำมันของเวเนซุเอล่า ) สามารถควบคุมโครงการส่วนใหญ่ได้ โดยมีบริษัทน้ำมันต่างชาติเล่นบทพระรอง เช่น เชฟรอน Statoil ( นอร์เวย์ ) และ BP ( อังกฤษ ) ตกลงและรักษาผลประโยชน์ส่วนน้อยในโครงการ แต่ว่า “เอ๊กซอน” ( ExxonMobil) และ ConocoPhillips ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงสัญญา และทำให้ทรัพย์สินของพวกเขาถูกเวนคืนเป็นของรัฐบาลเวเนซุเอล่า
... เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอีกกรณีที่ทำให้บริษัทน้ำมันของเอ๊กซอนแค้นใจเมื่อ “ประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเวช” ได้ใช้เรือของกองทัพมายึดเอาทรัพย์สินของ “เอ๊กซอนของอเมริกา” ที่อยู่ในระหว่างการสำรวจขุดเจาะหาแหล่ง ในน่านน้ำพิพาทระหว่าง “เวเนซุเอล่า” กับ “กีอานา” ( Guyana ) เพื่อนบ้านทางตะวันออกไปเป็นสมบัติของรัฐบาลเวเนซุเอล่า ทำให้เอ๊กซอนโกรธมากและต้องย้ายเรือของพวกเขาออกจากเวเนซุเอล่าไป แต่ยังต้องการจะเอาสมบัติของพวกเขาคืนในภายหลัง , ที่ “จอห์น โบลตัน” ที่ปรึกษาหนวดดกด้านความมั่นคงของทรัมป์ เคยบอกเป็นนัยๆว่าเอ๊กซอนจะกลับมาเอาสมบัติส่วนนี้คืนจากเวเนซุเอล่าแน่นอน , ดูแผนที่ประกอบ ( คล้ายๆ น่านน้ำไทย กับ กัมพูชาที่ ทั้งสีแดง สีฟ้า เอามอบพื้นที่รอบๆเขาพระวิหารไปให้เพื่อนบ้านแบบคนไทยไม่รู้ปิดข่าวกันที่แนวชายแดนนี้มีผลต่อน่านน้ำไทยที่อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำมันในอนาคตแล้ว เราเสียไปเยอะ เพราะนักการเมืองและข้าราชการไทยที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไทยมักจะโดนเงินอุดปากรวยกันไปหมด )
... ซึ่ง ซีอีโอของเอกซอน นาย Darren Woods หวังหมายมั่นที่จะได้เจาะน้ำมันในดินแดนนี้ อย่างมากว่าจะดูดขายได้จริงในปี 2020 ปีหน้านี้ และ พยายามตีความว่าน้ำมันในน่านน้ำนั้นเป็นของ Guyana และพวกเขาได้สัมปทานจากกีอานาในปี 1999 แต่เวเนซุเอล่าถือว่าเป็นดินแดนและน่านน้ำตัวเอง เอ๊กซอนได้ไปสำรวจน้ำมันในดินแดนนั้นโดยเน้นด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่เวเนไม่ยอมเอากองทัพเรือมาไล่ออกไปในท้ายที่สุด ในปี 2007 จนเกิดความพยาบาทจากเอ๊กซอน
… It has echoes in the past: In 2007, Venezuela’s then-president, Hugo Chavez, nationalized Exxon’s assets in the country. Exxon moved two vessels away from the disputed region after Venezuela’s navy confronted them last month.
… ย้อนกลับไปความขัดแย้งเรื่องดินแดนระหว่าง “เวเนซุเอล่า กับกีอานา Guyana” นั้นมีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่ตอนนั้น Guyana กีอานา ยังเป็นอาณานิคมของ “อังกฤษ” ( เพิ่งได้เอกราชในปี 1966 ) โดยเวเนซุเอล่าอ้างเอาพื้นที่ด้านทิศตะวันตกสองในสามของแม่น้ำ Essequibo เป็นของตนนานแล้วและมีผลต่อดินแดนน่านน้ำทางทะเลด้วย และเวเนซุเอล่าไม่ยอมรับแผนที่ในปี 1899 ที่ยกดินแดนนี้ให้อังกฤษในภายหลัง และตอนนั้นเอ๊กซอนฟ้องร้องรัฐบาลเวเนซุเอล่า 1.6 พันล้านดอลล่าร์ต่อธนาคารโลกและสุดท้ายเวเนซุเอล่าต้องจ่ายให้เอ๊กซอน 188 ล้านดอลล่าร์
... ส่วนท่าทีของ “รัฐบาลอเมริกา” นั้นแน่นนอนว่าเข้าข้าง “กีอานา” แบบเต็มๆ , แบบที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเข้าข้าง ปานามา เพื่อดันให้แยกประเทศจากโคลอมเบียเพื่ออยากได้คลองปานามามาเก็บค่าผ่านคลองและการลงทุนรอบข้างๆ, โดยบอกว่า กีอานา มีสิทธิในอธิปไตยเหนือน่านน้ำนั้นเพื่อจะทำการสำรวจเซซามิคเทสท์แบบคลื่นเสียงส่งไปใต้น้ำ เพื่อหาน้ำมัน
… และสุดท้ายก็นำมาซึ่ง “การปล้นประเทศเวเนซุเอล่า” กลางวันแสกๆ ในปี 2019 ของ “อเมริกา” จนได้ ซึ่ง “เกรก ปาลาสท์” บอกว่าเรื่องทั้งหมดนั้น มันเกี่ยวกับน้ำมันอย่างชัดเจน ของประเทศนี้ ที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าอเมริกา จะได้มากกว่านั้น เพราะถ้ายึดครองปล้นได้ จะสามารถขับไล่อิทธิพลของ “จีนและรัสเซีย” ทั้งการค้า ระบบราง การก่อสร้างที่อยู่อาศับเพื่อคนจนการเมือง การทหาร ออกไปจากเวเนซุเอล่าได้ เพราะว่าประเทศนี้เหมือน “สวนหลังบ้านของอเมริกา” ที่เขาคงไม่ต้องการให้มีอาวุธร้ายแรงจากจีนและรัสเซียมาติดตั้งในที่นี่ด้วยเช่นกัน
... และล่าสุดปลายเดือนมีนาคมนั้น “รัสเซีย” ได้ขนเอาทหารและอาวุธบางส่วนเข้ามาที่เวเนซุเอล่าแล้ว ตอนนี้เวเนซุเอล่ากำลังจะเป็น “สงครามเวียตนามแห่งใหม่” แห่งลาตินอเมิรกาในปี 2019 อย่างแน่นอน
.
.
… In 2007, when Chavez nationalized Exxon’s assets, the U.S. company sued Venezuela for $1.6 billion at the World Bank’s International Center for Settlement of Investment Disputes. Venezuela was ordered to pay back only $188 million.
… . What is the U.S. government’s position?
It supports Guyana’s “sovereign right to develop those resources, which includes allowing ships to go about their business doing surveys and other seismic activities.”
… In 2007 oil prices were on the rise, and the Chávez government sought more revenue as the investments made by the international oil companies began to pay off. Venezuela demanded changes to the agreements made by the international oil companies that would give PDVSA majority control of the projects. Total, Chevron, Statoil and BP agreed and retained minority interests in their Venezuelan projects. ExxonMobil and ConocoPhillips refused, and as a result, their assets were expropriated. (A World Bank arbitration panel has ruled against Venezuela in both expropriation cases, but the country continues to appeal the decisions).
Cr.Jeerachart Jongsomchai
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/