อีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ที่ควรสะสมทองคำ

เมื่อประมาณหนึ่งปีมาแล้วผมเคยแปลบทความของ Simon Black เรื่องการผลิตทองคำที่กำลังลดลง (คล้ายๆกับบทนี้) ปกติแล้วการผลิตทองคำที่ลดลงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องมาบอกกันแร่ทองคำใช้เวลาที่จะเกิดขึ้นใต้ผิวโลกนับล้านปี

แต่มนุษย์ใช้เวลาไม่กี่สิบปีขุดขึ้นมา ....นั่นเป็นเหตุผลที่บริษัทเหมืองทองจำต้องมีการสำรวจแหล่งแร่ทองคำใหม่อยู่เรื่อยๆ

และนั่นแหละที่เป็นปัญหา เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่มีการสำรวจมาระยะหนึ่งแล้ว

บริษัทเหมืองทองใหญ่ๆ มีการตัดงบประมาณการสำรวจมาหลายปีแล้ว โดยที่ปี 2016 เป็นปีที่มีงบประมาณต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี

ราคาทองคำที่หยุดนิ่งมานานเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไปทำให้การสำรวจแหล่งแร่ใหม่ๆลดลง ..ตามมาด้วยนักลงทุนก็ไม่สนใจลงทุนในธุรกิจการผลิตทองคำด้วย

จากชาร์ท..ราคากองทุน ETF (GDX) ราคาไม่ได้ไปไหนเลยมา 5 ปีแล้ว

และราคาทองคำเองก็นิ่งไม่ขยับมาหลายปีแล้ว ...ราคาวันนี้ $1,290/oz ต่ำกว่าปี 2011 ถึง 30%

นั่นหมายถึงว่า ....ถ้าเมื่อดีมานด์ทองคำมันเกิดพุ่งขึ้นสูง (ซึ่งเราน่าจะได้เห็นกันแน่ในไม่ช้า) ซัพพลายของทองคำที่มีอยู่ขณะนี้ต้องไม่พอแน่ๆ

Pierre Lassonde มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทผู้รับสัมปทานขนาดยักษ์ในเขตเนวาด้า และอดีตผู้บริหารของ Newmont Mining ...กล่าวว่า

"ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วง 70s 80s 90s ..ในแต่ละช่วงสิบปี อย่างน้อยจะต้องมีการสำรวจพบแหล่งแร่ทองคำขนาด 50+ ล้านออนซ์ 1 แห่ง ..30+ ล้านออนซ์อีก 10 แห่ง ..ขนาด 5 ถึง 10 ล้านออนซ์อีกนับไม่ถ้วน..

..แต่หลัง 15 ปีมานี้ ไม่มีการพบแหล่งขนาด 50 หรือขนาด 30 ล้านออนซ์อีกเลย มีเพียงขนาด 15 ล้านออนซ์แค่ไม่กี่แห่ง..

..แล้วเราจะมีที่ไหนมาทดแทนในช่วงนี้?..."

Lassonde ไม่ใช่ผู้เล่นรายใหญ่คนเดียวที่ออกมาบอกถึงการผลิตทองคำที่กำลังตกต่ำลง .....Ian Telfer, ประธานของ Goldcorp, ก็บอกกับ Financial Post

"ในธุรกิจการผลิตทองคำจากเหมือง มันเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอมาตลอด 40 ปี แต่มาถึงปีนี้หรือไม่ก็ปีหน้ามันเริ่มจะตกลง และจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ..ช่วงนี้เรากำลังอยู่ที่จุดพีค"

ถ้าการผลิตทองคำถึงจุดพีควันนี้ และบริษัทเหมืองทั้งหลายไม่ได้หาแหล่งใหม่ๆไว้เลย มันหมายความได้แค่อย่างเดียว ....เมื่อตอนที่เกิดดีมานด์ เราจะเห็นการรวมตัวกันของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ทันที

เหมืองแต่ละแห่งจะต้องมีการรวมตัวกันเพื่อเพิ่มผลการผลิตให้ได้ เพียงพอต่อดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

การรวมตัวกันกำลังเกิดขึ้นแล้ว ..วันนี้เอง หุ้นของ GoldCorp มูลค่า $8,500 ล้านในมือของ Telfer.. ถูกซื้อไปโดย Newmont Mining ด้วยราคา $10,000 ล้าน

นี่ไม่ใช่ดีลแรกที่มีการซื้อขายกัน เมื่อเดือนกันยายน Barrick Gold เข้าเทค Randgold Resources ...ดีลที่ราคา $6,000 ล้าน

นี่คือสิ่งที่จะได้เห็น ในยุคที่บริษัทเหมืองทองคำทั้งหลายกำลังควบรวมกิจการกันและกัน เพื่อรวมกำลังการผลิต

ทั้งหมดนี้มันจะไปสะท้อนให้เห็นชัดเจนในราคาทองคำในตลาดในระยะยาว

ผมไม่เคยมองทองคำในแง่การลงทุนเลย ผมไม่เคยเอาทองคำไปเทรดเป็นสกุลเงินกระดาษเลย มีแต่จะเอาสกุลเงินกระดาษไปเทรดเป็นทองคำ

ผมมองว่าทองคำคือสิ่งที่จะถือไว้เป็นการ hedging ประกันความเสี่ยง ...ความเสี่ยงในทุกอย่างที่มันไม่เมคเซนส์เอาเลยในโลกปัจจุบัน

ความเสี่ยงมันเต็มไปหมด:

หนี้ของสหรัฐที่ขณะนี้อยู่ที่เกือบ $22 ล้านล้าน และยังเพิ่มอีกปีละ $1 ล้านล้าน

ทุกรัฐบาลทั่วโลกดูเหมือนกำลังพยายามที่จะทำลายเงินกระดาษ และเพิ่มหนี้ของตนขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยก็กำลังขึ้นอย่างช้าๆจะระดับต่ำสุด ที่กำลังทำให้ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่รุ่งมานับสิบปีอยู่ในความเสี่ยง

เหล่านี้คือเหตุผลที่จะต้องครอบครองทองคำไว้

จากข่าวทุกวันนี้ เราจะเห็นว่าบริษัทเหมืองทองขนาดใหญ่หลายแห่งในโลก มีการเพิ่มทองคำสำรองมูลค่ารวมๆกันถึง $16,000 ล้าน ..พวกเขาก็ยอมรับว่าทองคำยังคงช้อร์ตอยู่เป็นจำนวนมาก ...และเทนด์นี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

****

Yet another MAJOR reason to buy gold
Simon Black. Jan 14, 2019

For almost a year now, I’ve been advising you that gold production is plunging…

By itself, declining gold production isn’t a huge deal.

It takes hundreds of millions of years for minerals to form deep in the earth’s crust… but humans only need a few decades to extract it.

That’s why mining companies need to constantly explore for new deposits.

And that’s where the problem comes in… mining companies haven’t been exploring.

Large mining companies have been cutting their exploration budgets for years. By the end of 2016, exploration budgets hit an 11-year low.

Part of the reason for the decline in exploration has been the stagnant gold price and general, investor disinterest toward the gold mining sector.

If you look at a chart of the Gold Miners ETF (GDX), the price hasn’t gone anywhere for five years.

And gold prices have likewise languished; today’s price of $1,290 per ounce is down 30% from the 2011.

To fight the tough times, miners slashed their exploration budgets.

That means, when the demand for gold picks up again (which I think we’re starting to see now), there won’t be enough gold supply.

You don’t have to just take my word for it…

Pierre Lassonde, the billionaire founder of gold royalty giant Franco-Nevada and former head of Newmont Mining –

If you look back to the 70s, 80s and 90s, in every one of those decades, the industry found at least one 50+ million-ounce gold deposit, at least ten 30+ million ounce deposits, and countless 5 to 10 million ounce deposits.

But if you look at the last 15 years, we found no 50-million-ounce deposit, no 30 million ounce deposit and only very few 15 million ounce deposits.

So where are those great big deposits we found in the past? How are they going to be replaced? We don’t know.

Lassonde isn’t the big gold player warning about the falling gold production. You can read some other warnings in this piece I wrote in July of last year.

One of the legends we quoted was Ian Telfer, chairman of Goldcorp, who told the Financial Post:

“If I could give one sentence about the gold mining business … it’s that in my life, gold produced from mines has gone up pretty steadily for 40 years. Well, either this year it starts to go down, or next year it starts to go down, or it’s already going down… We’re right at peak gold here.”

If gold production is peaking, and the mining companies aren’t spending money to find new deposits, that means one thing… when demand picks up, we’ll see a wave of consolidation in the industry.

Mining companies will be forced to acquire one another in order increase their production and meet a rising gold demand.

These consolidations are already happening. Literally just today, Telfer’s $8.5 billion Goldcorp was acquired by Newmont Mining for $10 billion.

This isn’t the first deal like this: back in September, Barrick Gold bought Randgold Resources in a $6 billion deal.

This is exactly what you’d expect to see in an era where gold miners are acquiring each other and consolidating their production.

And all of this should be quite favorable for gold prices over the long-term.

Now, at least for me, gold has never really been an investment. I don’t trade paper currency for gold, hoping to trade gold back for more paper currency down the road.

Instead, gold for me has always been always a hedge against all the risks in the world that just don’t make sense.

And there are plenty of those:

The US debt is now nearly $22 trillion and growing at more than $1 trillion a year.

Interest rates across the world’s other largest economies– Europe and Japan– are still negative. China is rapidly slowing.

Governments around the world, it seems, are in a coordinated effort to destroy paper money and inflate their massive debts away.

Meanwhile, interest rates are slowly rising from the bottom, putting the huge stock and bond rally of the past decade at risk.

All of these are very prudent reasons to own gold.

And with today’s news, we’ve now seen several of the largest gold miners in the world spending a combined $16 billion to increase their gold reserves. They’re admitting there’s a big shortage of the metal. And this trend is just getting started.

Cr.Sayan Rujiramora

สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"