“สมรภูมิไซเบอร์การเงิน ระหว่าง SWIFT กับ CIPS กำลังเดือด และอาจจะมีตัวเลือกที่สามของยุโรป?”

... โลกแบ่งเป็นสองขั้ว ขั้วแรกยอมเป็นข้าทาสเงินดอลล่าร์รวมทั้งระบบการโอนเงินของดอลล่าร์ หรือ SWIFT นำโดย “อเมริกา” กับ อีกขั้วที่มี “จีน” นำ ที่สร้างระบบการโอนเงินแบบทางเลือกมาแข่งก็คือ CIPS หรือ Cross-Border Inter-Bank Payments System

ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2015 หรือแม้แต่ “รัสเซีย” เองก็สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศเช่นกัน คือ SCO, และ BRI แต่อาจจะไม่มีเครือข่ายที่ใหญ่เท่าของจีน

... ขั้วที่พยายามเป็นคู่แข่งของระบบเงินดอลล่าร์นั้น นำโดย “จีน รัสเซีย ตุรกี อิหร่าน อินเดีย เวเนซุเอล่า” พยายามทำทุกอย่างอย่างชัดเจนมากขึ้น นับตั้งแต่ปี 2017 – 2018 เป็นต้นมา ทั้งการเทขายทิ้งเงินดอลล่าร์ เทขายทิ้งพันธบัตรสกุลดอลล่าร์ของอเมริกา รวมทั้งการค้าขายน้ำมัน การค้าทองคำและการค้าต่างประเทศระหว่างกันเป็นเงินที่ไม่ใช่ดอลล่าร์ เพราะว่า ตราบใดที่ประเทศทั่วโลกต้องใช้ดอลล่าร์ในการซื้อขายน้ำมัน หรือ “เปโตรดอลล่าร์” และ การค้าขายสินค้าระหว่างกัน เป็นเงินดอลล่าร์แล้ว ก็ยากที่ธนาคารกลางของทั่วโลกจะเทขายดอลล่าร์ในคลังทิ้งแล้วมาเก็บทองคำแทน

... ดังนั้น กลไกหนึ่งที่ต้องมาก่อนที่ขั้วตรงข้ามดอลล่าร์พยายามจะเร่งทำก็คือ “เร่งกระตุ้นให้ทั่วโลกเลิกซื้อขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ และ ค้าขายสินค้าระหว่างกันในนานาชาติเป็นเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลล่าร์” .หรือการ Bypass ดอลล่าร์ เพราะถ้าทำได้สร้างกระแสไปทั่วโลก ธนาคารชาติทั่วโลกจะเทขายดอลล่าร์ในคลังออกได้มากมายแน่นอนแล้วไปสะสมทองคำแทน ที่ทำให้ดอลล่าร์จะลงจากบัลลังค์ “เผด็จการทางการเงินของโลก” ได้อย่างแน่นอน เพราะว่าการที่โลกยังต้องซื้อขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์และค้าขายนานาชาติเป็นดอลล่าร์ ทำให้ตอนนี้ นอกจากธนาคารกลางของชาติทั่วโลกต้องเก็บเงินดอลล่าร์แล้ว ธนาคารเอกชนทั่วไปของทั้งโลกก็ต้องเก็บเงินดอลล่าร์ไว้ในคลังมากกว่า 60 % ด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ ฝ่ายตรงข้ามต้องการลดปริมาณตรงนี้ลงให้ได้ เพื่อลดอำนาจของดอลล่าร์ลง

.. และขั้นตอนต่อไปก็คือต้องโค่นระบบทำธุรกรรมทางการเงิน หรือโอนเงินระหว่างธนาคารนานาชาติของ ระบบ SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ที่ในทางพฤตินัยก็เป็นเครื่องมือหนึ่งของระบบดอลล่าร์ แล้วไปใช้ทางเลือกของ "จีน" สร้างมาหรือเรียกว่า CIPS แทน ซึ่งระบบนี้จะมีหยวนของจีนเป็นสกุลหลัก

... ส่วนอีกซีกยุโรป ก็มีกระแสนี้มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เช่น ตอนนี้ “รัสเซีย” พยายามจะชักชวนประเทศในสหภาพยุโรปมาค้าขายกันโดยบายพาสดอลล่าร์ มาใช้เงินยูโรแทน ที่ก็แค่แก้ไขไปได้ครึ่งทาง แต่รัสเซียต้องการมากกว่านั้น โดยชวนให้ออกจากระบบ SWIFT ของดอลล่าร์ด้วย โดยมาใช้ระบบอื่นแทน

... เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2018 ที่ผ่านมา มีข่าวหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากต่อวงการเงินโลก เพราะปรากฏว่า “เยอรมัน” ประเทศที่เป็นบริวารหลักของ “อเมริกา” ในยุโรป เหมือนญี่ปุ่นเป็นบริวารหลักอเมริกาในเอเชีย ได้ออกข่าวว่าอาจจะพิจารณายกเลิกการใช้ระบบการโอนเงิน SWIFT มาเป็นระบบอื่นแทน ซึ่งบางสายมองว่าเป็นไปได้สูง

... โดยสาเหตุที่นักวิเคราะห์มองว่าโอกาสที่ “เยอรมัน" จะออกจากระบบ SWIFT ได้นั้น ก็เพราะว่าพวกเขาอึดอัดกับการอันธพาลของ “อเมริกา” เช่นการขึ้นภาษีการค้าเหล็ก อลูมิเนียม ที่ไม่เว้นแม้แต่ประเทศบริวารคนสนิทอย่างประเทศสหภาพยุโรป หรือกรณีบีบให้กลับมาคว่ำบาตรกับ “อิหร่าน” อีกครั้งทั้งๆที่ยุโรปต้องการค้าขายกับอิหร่านมาก รวมทั้งพยายามจะห้ามการค้าขายและเดินท่อแก๊ส “โครงการสายเหนือ 2” ที่เยอรมันจะเป็นศูนย์กลางในการขนส่งและกระจายแก๊สจากรัสเซียผ่านทะเลบอลติคไปขายให้ยุโรปตะวันตก ซึ่งนักการเมืองบางพรรคของเยอรมันออกมาตำหนินโยบายนี้ของอเมริกาอย่างมาก ( ยังไม่นับการที่อเมริกา พายุโรปคว่ำบาตรรัสเซียจนทำให้การค้าสะดุดไปทั่วทวีป ตั้งแต่ปี 2014 )

... และถ้า “เยอรมัน” ออกจากระบบ SWIFT ได้จริง จะมีการนำทางให้ประเทศยุโรปอื่นๆออกตามมาอย่างแน่นอน และจะทำให้อำนาจของดอลล่าร์ในเวทีการเงิน การค้าโลก สั่นครอนและลดลงไปมากทันที

... ทำไมต้องออกจากระบบ SWIFT ?

... “เอ็ดเวิร์ด สโนเดน” ที่ต้องหนีการตามจับตัวจาก “อเมริกา” จนต้องหนีไปซบรัสเซีย เคยบอกว่า ระบบ SWIFT ของอเมริกานั้น มีจุดอ่อน สำคัญ 2 เรื่อง ทั้ง เรื่องการสปายสอดแนมได้ง่ายเพื่อจะตรวจสอบว่าใครโอนเงินไปให้ใครบ้าง ซึ่งไม่มีความเป็นส่วนตัวหรือปลอดภัยเลย ซึ่งในทางพฤตินัยแล้วระบบนี้ตกอยู่ในอิทธิพลของอเมริกา และสองคือการแฮคจากโจรไซเบอร์ ที่ธนาคารของบังคลาเทศเคยเจอมาแล้วและสูญเงินในบัญชีไปมากถึง 81 ล้านดอลล่าร์ โดยจับมือใครดมไม่ได้ หรือแม้แต่ธนาคารของเวียตนามก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้มาแล้ว ซึ่งทั้งฝ่าย "อเมริกา" และ "จีน" ก็โยนสาดอาจมใส่อีกฝ่ายว่าใช้ "ทหารแฮกเกอร์" ในการโจมตีการโอนเงินของอีกฝ่ายให้เสียหายและทำลายความน่าเชื่อถือ

.. หรือแม้แต่กรณีลูกสาวเจ้าของ “หัวเว่ย” โดนจับที่แคนาดา นั้นก็ถูกสปายจับได้ว่าไปมีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับอิหร่าน ก็โดยการสืบตรวจจากระบบ SWIFT ของอเมริกา เช่นกัน ทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยเลย

... ซึ่งจากสองสาเหตุนั้น รวมกับเรื่องที่อเมริกาจุ้นจ้านบีบบังคับให้พวกเขาคว่ำบาตร รัสเซีย อิหร่าน และห้ามนั่นนี่ จะทำให้ประเทศในยุโรปถอนตัวออกจากระบบ SWIFT และ ไปใช้ระบบ CIPS ที่จีนก่อตั้ง หรือ ระบบอื่นแทน

... เร็วๆนี้ ของปี 2018 ที่ผ่านมา นาย Heiko Maas รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของ “เยอรมัน” เคยออกมาบอกว่า อยากจะปลดแอกตัวเองออกจากระบบดอลล่าร์และ SWIFT โดยการสร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศของตัวเองขึ้นมา เพราะว่าถ้าสหภาพยุโรปสามารถสร้างระบบโอนเงินไม่ต้องพึ่ง SWIFT ก็จะไม่ต้องเดินตามนโยบายต่างประเทศของอเมริกาในการคว่ำบาตร “อิหร่าน” ที่ยุโรปหลายชาติต้องการไปลงทุนในการค้าพลังงานที่มากมายในประเทศนี้ เพราะว่าสาเหตุหนึ่งที่อเมริกาขู่ก็คือ ประเทศไหนที่ขืนดื้อไม่เชื่อฟัง ยังไปค้าขายกับอิหร่าน พวกเขาจะแช่แข็งหรือยึดเงินที่มีการโอนผ่าน SWIFT ที่ธนาคารเอกชนเหล่านั้นเกรงกลัวอย่างมาก เพราะถ้าธนาคารไหนดื้อไปทำธุรกรรมกับอิหร่าน อาจจะถูกลงโทษในการห้าม หรือจำกัดการทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศอเมริกาหรือโดนยึดทรัพย์ ยึดเงินได้ จนทำให้ธนาคารของหลายชาติต้องกลัวและทำตาม

... นอกจากนั้นนาย Heiko Maas ยังพูดได้แรงมากว่า “เราไม่ควรให้อเมริกามาทำอะไรข้ามหัวเราและบนค่าใช้จ่ายของเรา ด้วยเหตุนี้ มันเป็นความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเอกราชของยุโรปโดยการสร้างช่องทางการชำระเงินที่เป็นอิสระจากอเมริกา โดยสร้างกองทุนการเงินยุโรปและสร้างระบบการโอนเงินที่เป็นอิสระจากระบบ Swift ... ยุโรปไม่ต้องการเป็นประเทศราชทางธุรกรรมทางการเงินของอเมริกาอีกต่อไป”

... นักวิเคราะห์เชื่อว่า กระแสหนีเงินดอลล่าร์และระบบโอนเงินผ่าน Swift ของ “อเมริกา” นั้น จะค่อยๆเดินหน้าไปอย่างช้าๆ และจะเป็นรูปเป็นร่างอย่างชัดเจนในอีกประมาณ 7 – 10 ปีข้างหน้านี้ ที่จะทำให้อำนาจของฝ่ายอเมริกาจะค่อยๆหายไปและหมดอิทธิพลในการเงินและการค้าของโลก

.

... Now we learn that Germany is on board with moving away from SWIFT and the “trade wars”, sanctions against Russia and President Trump forcing NATO “partners” to pay up. President Trump’s actions have pushed Germany away from their alliance with the U.S.. The German / Russian partnership is very important to the overall German economy and Trump’s recent demand that Germany stop doing oil business with Russia seems to have pushed them over the edge. There may be more at play here, but most all geopolitical issues in the 21st century boil down to oil, oil production and how to get the cheapest oil possible. Whatever the motivation, Germany wants out of SWIFT as they have come to realize how strangling this payment system is to any and all economies utilizing this platform.

... In a stunning vote of “no confidence” in the US monopoly over global payment infrastructure, Germany’s foreign minister Heiko Maas called for the creation of a new payments system independent of the US that would allow Brussels to be independent in its financial operations from Washington and as a means of rescuing the nuclear deal between Iran and the west.
Writing in the German daily Handelsblatt, Maas said “Europe should not allow the US to act over our heads and at our expense. For that reason it’s essential that we strengthen European autonomy by establishing payment channels that are independent of the US, creating a European Monetary Fund and building up an independent Swift system,” he wrote, cited by the FT.

... Maas said it was vital for Europe to stick with the Iran deal. “Every day the agreement continues to exist is better than the highly explosive crisis that otherwise threatens the Middle East,” he said, with the unspoken message was even clearer: Europe no longer wants to be a vassal state to US monopoly over global payments, and will now aggressively pursue its own “Swift” network that is not subservient to Washington’s every whim.

... All of these discussions, policy changes and actions all point to one thing – de-dollarization. It’s a slow walk, we believe another 7-10 years, mid / late 2020’s will be the timeframe this whole picture is realized and the FRN no longer carries any weight at all on the global stage.

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"