ทรัมป์ประกาศเมื่อ 19 ธันวาคม 2018 ว่าจะถอนทหารออกจาก “ซีเรีย” เพราะอ้างว่าไอซิสจะแพ้แล้วหลังจากโดน “รัสเซีย” ปราบปรามอย่างหนักในสามปีที่ผ่านมา และทำให้พันธมิตรบริวารลูกสมุนนั้นต่างงงและไม่พอใจอย่างมาก เช่น “เคิร์ด”
นั้นออกมาตำหนิ “อเมริกา” ว่าทรยศเพื่อนเพราะว่า เคิร์ดนั้นเป็นเหมือนทหารรับจ้างของอเมริกาในการรังควานปั่นป่วน “ตุรกี” เอาใจอเมริกามาโดยตลอด แล้วอยู่ๆจะมาทิ้งกันได้อย่างไร
... แต่นักวิเคราะห์จาก “อัลจาซีร่า” ก็บอกว่าเรื่องแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ ทรัมป์อาจจะเดินตามซ้ำรอย “ลุงโอบาม่า” ก็ได้
... เพราะว่าในตอนนั้น ปี 2011 ลุงโอบาม่า ได้ประกาศจะถอนทหารประหยัดงบประมาณโดยได้เริ่มทยอยถอนหทารออกจาก “อิรัก” ในปีนั้น เพื่อจะถอนกำลังออกจากประเทศ ซึ่งความจริงนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะหนึ่งในสาเหตุที่แท้นั้นนอกจากเรื่อง หนึ่ง อเมริกาต้องการคงกำลังรักษาแหล่งน้ำมันที่อุดมในอิรักด้วยพลังงานธรรมชาติแล้วเอามาขายเลี้ยงไอซิสป่วนอิรักและอิหร่าน แล้วสาเหตุที่สองก็คือ สร้างไอซิสมาป่วนในอิรักเพื่อไม่ให้เกิดโครงการเดินท่อแก๊ส จาก “อิหร่าน อิรัก ซีเรีย ออกทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” หรือ “เส้นทางสายพระจันทร์เสี้ยวชีอะห์” ไปขายยุโรปได้
... โดยอ้างว่าปี 2014 นั้นเมือง “โมซุล” เมืองทางตะวันตกของฝั่งแม่น้ำไทกริส ห่างจากกรุงแบกแดดไป 400 กิโลเมตร และเป็นเมืองอุดมน้ำมันอันดับต้นๆของอิรัก ตกไปอยู่ในมือของไอซิสอีกครั้งทำให้สุดท้ายแล้ว “อเมริกา” ก็ต้องเก็บทหารไว้ที่ “อิรัก” อยู่จนถึงปัจจุบัน ( เหมือนการเล่นละครจ้างเลี้ยงทหารรับจ้างไว้เพื่อพระเอก จะได้คงทหารเอาไว้ปราบโจรต่อไป )
... เพราะ “อิรัก” คือประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากเป็นอันดับ 12 ของโลก และมีน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยร้อยละ 20 ของแหล่งน้ำมันในอิรักอยู่ทางเหนือใกล้กับเมือง Kirkuk, Mosul หรือ โมซุล และ Khanaqin. ซึ่งตอนหลังสงครามในปี 2003 นั้น ชาวเคิร์ดที่ช่วยอเมริกาโค่นซัดดัม ก็พยายามจะเข้ามาครอบครองบ่อน้ำมันแถบนั้น โดยการช่วยเหลือของอเมริกา ( ขณะที่อันดับ 1 ในน้ำมันสำรองมากสุดในโลกนั้นคือ เวเนซุเอล่า ที่กำลังถูกแทรงแซงอย่างหนัก )
... โดยสมัยโอบาม่านั้น ได้พยายามออกสื่อว่า “ใช้ทหารรับจ้าง” ไม่อยากเอาทหารอเมริกันไปตาย แต่จ้างทหารรับจ้างท้องถิ่นไปตายแทน เช่นทหารรัฐบาลอิรัก ทหารเคิร์ดที่ฝันจะมีรัฐเอกราชของตน และกองทหารชาวชีอะห์ในอิรักมาช่วยรบกับไอซิส ซึ่งปีนั้นเอง เป็นจุดเริ่มที่ “ตุรกี” ไม่พอใจอเมริกา” เพราะว่าอเมริกาทั้งฝึกฝน อบรม ให้ความช่วยเหลือทั้งการเงิน การทหารกับชาวเคิร์ด Kurdish YPG มาตลอดอย่างมาก ที่ตุรกีถือว่าพวกนั้นเป็นก่อการร้ายในประเทศ
... ซึ่งนอกจากจะอ้างว่าปราบยาก ใช้เวลาปราบนานแล้ว “น้ำมันดิบจากอิรัก” ยังถูกนำมาดูดไปขายอย่างผิดกฏหมายในตลาดมืด เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงจ้างไอซิสอีก จากการเปิดเผยของรัสเซีย โดยผ่านดินแดน “ตุรกี” โดยมี “อิสราเอล” เป็นฝ่ายจัดการหาตลาดยุโรปให้ ทำกันเป็นขบวนการ
... แท้จริงแล้ว “ทรัมป์” ต้องการถอนทหารออกจากซีเรีย ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2018 แล้ว แต่ให้เวลากับฝ่ายปฏิบัติการ จนได้ประกาศจริงๆในเดือน 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา
... ปัจจุบันนี้ “ชาวเคิร์ด” ในซีเรีย ภายใต้การสนับสนุนของ อเมริกา นั้นได้ครอบครอง 1 ใน 3 ของดินแดนซีเรีย ที่เป็น “ส่วนที่มีประโยชน์” ทั้งสิ้น เช่น น้ำมัน แหล่งน้ำ เขื่อน โรงผลิตไฟฟ้า และพื้นที่เพราะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ สิ่งที่ประเทศพันธมิตรยุโรปและบริษัทน้ำมันอเมริกากลัวก็คือ “รัสเซีย” อาจจะใช้กำลังเข้ามายึดครองแหล่งน้ำมัน น้ำ เขื่อน โรงไฟฟ้าเหล่านี้ ไปจากกบฏชาวเคิร์ดแล้วเอาไปให้รัฐบาลอัสสาดแทน ซึ่งพวกเขารับไม่ได้ เพราะยิ่งจะทำให้รัฐบาลซีเรีย เข้มแข็งมากขึ้นอีก
... นอกจากเรื่องแหล่งน้ำมันในอิรัก ซีเรียแล้ว ยิ่งนานๆไป ไอซิสในอิรักก็ยิ่งแตกสาขาเข้าไปใน “ซีเรีย” อีก และนักวิเคราะห์มองว่าตั้งแต่ 2014 นั้นมา สงครามใน “อิรักและซีเรีย” เป็นแค่ “สงครามตัวแทน” ที่อเมริกาพยายามจะอยู่หลังฉากมากกว่า โดยปล่อยให้ประเทศมหาอำนาจในดินแดนนี้ ทั้ง ตุรกี อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเล่นเองแล้วเมกาคุมจังหวะเกมห่างๆมากกว่า และเป็นเกมการสกัดการค้าน้ำมัน “เส้นทางท่อแก๊ส สายอิหร่าน อิรัก และซีเรีย” ด้วย
... ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากสงครามในอิรัก ปี 2003 จบลงหลังจากพังทลายของระบบซัดดัม ที่นับถือนิกายซุนหนี่ “อิหร่าน” ได้สนใจทำ “เส้นทางสายพระจันทร์เสี้ยวชีอะห์” โดยคล้ายเส้นทางสายไหมของนิกายชีอะห์ ที่จะเชื่อมจาก “อัฟกานิสถาน ไป อิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” ซึ่งโครงการท่อแก๊สข้างต้นก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
... ซึ่งตอนที่ โอบาม่าประกาศในปี 2011 ว่าจะถอนทหารออกจากอิรักในปี 2011 นั้น ทำให้ความหวังของอิหร่านในโครงการ “เส้นทางพระจันทร์เสี้ยวชีอะห์” สว่างไสวมากขึ้น แต่แล้วก็เกิดตัวละคร ทหารรับจ้างนามว่า “ไอซิส” ขึ้นมาทำลายความหวังของอิหร่านในที่สุด โดยมีอเมริกา ซาอุด อิสราเอล ตุรกี เคิร์ด ร่วมมือกันทำลายฝันของอิหร่าน ไม่ใช่แค่นั้น ในปี 2018 นี้ อเมริกาก็ยิ่งตอกย้ำที่จะพาประเทศบริวารกลับมาคว่ำบาตรกับอิหร่านอีกครั้งหนึ่งหลังจากยอมผ่อนปรนตั้งแต่ปี 2015 แค่สองสามปี
.... “สงคราม อิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย เลบานอน” ก็เป็น “สงครามตัวแทน” ระหว่าง ขั้วอิหร่าน ซีเรีย อิรัก รัสเซีย เลบานอน กับอีกฝ่ายคือ ซาอุดิอาระเบีย และอิสราเอล เคิร์ด ที่มีอเมริกา ยุโรป บริษัทน้ำมันหนุนหลัง
... ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ถ้า “อเมริกา” โดยทรัมป์ถอนทหารออกจากซีเรียจริงๆ จะทำให้ “อิหร่าน” จะพยายามเข้ามาสร้างอิทธิพลและสานฝันที่ไม่สำเร็จเมื่อ 2003 ให้กลับมาเป็นจริงอีกครั้ง เพราะว่าตอนหลังพวกเขาพยายามจะพัฒนาแหล่งแก๊ส South pars ให้เป็นแหล่งพลังงานแล้วขายไปยุโรปโดยผ่านโครงการ “เส้นทางสายไหมของชีอะห์” หรือ “เส้นทางพระจันทร์เสี้ยวชีอะห์” นี้ให้ได้
... นอกจาก “เคิร์ด” แล้ว “อิสราเอล” ก็เป็นอีกประเทศที่ไม่พอใจการตัดสินใจประกาศถอนทหารออกจากซีเรียในครั้งนี้ เพราะว่าจะทำให้อิทธิพลของพวกเขาในซีเรียหายไปมากกว่าเดิม ยิ่งตอนหลังรัสเซียส่งเครื่องยิงสกัดจรวดมาให้ซีเรีย ยิ่งทำให้อิสราเอลเจองานยากขึ้น
... อีกประเทศที่ลำบากใจถ้าอเมริกาถอนออกจากซีเรียก็คือ “ซาอุดิอาระเบีย” ก็เพราะว่า ซาอุดต้องการเอาทหารและทีมงานของอเมริกา มาคานอำนาจกับ “ตุรกีและอิหร่าน” เข้ามาก้าวก่ายสกัดในการสร้าง “เส้นทางพระจันทร์เสี้ยวสายชีอะห์” โดยก่อนหน้านั้นพวกเขาก็สั่งซื้อเครื่องบินรบของอเมริกาชุดใหญ่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อจะจ้างอเมริกาให้ทำตามนโยบายเอาใจซาอุดทั้งยิงจรวดใส่ซีเรียและถอนออกจากข้อตกลงผ่อนผันเรื่องนิวเคลียร์เพื่อกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในสถานการณ์ที่ซาอุดกำลังเสี่ยงกับการกบฏและแย่งชิงบัลลังค์ในประเทศ ยิ่งทำให้การเมืองซาอุดนั้นยากขึ้นกว่าเดิม
... ขณะที่ “ตุรกี” ก็จะได้ใจ เพราะว่าพวก “เคิร์ดในซีเรีย หรือ PKK ที่ตุรกีเชื่อว่าเชื่อมโยงต่อกับเคิร์ดในตุรกี ที่มีอเมริกาหนุนหลังนั้น จะอ่อนแอลง และพวกเขาเคยประกาศว่าจะส่งกองทัพข้ามไปในภาคเหนือของซีเรีย เพื่อทำลายพวกนั้น เพราะเชื่อว่าพวกนั้นจะได้รับการส่งเสริมจากอเมริกาสร้างเป็นรัฐอิสระที่จะมาทิ่มแทงและปั่นป่วนตุรกีในระยะยาว ดังนั้นถ้าอเมริกาถอนทหารออกจากซีเรียจริง ตุรกีจะเจองานง่ายกว่า
... ฝ่าย “เคิร์ด” นั้น ถ้าอเมริกาถอนความสนับสนุนออกไป อาจจะทำให้พวกเขาต้องหันไปหาเจ้านายคนใหม่ ที่สามารถสานฝันเขาได้ ส่วน “ไอซิส” นั้น อาจจะปรับกลยุทธฺในการดำรงอยู่ ในการสานต่อแนวคิดของทหารรับจ้างต่อไป
… คำถามคือ ทรัมป์จะนำอเมริกาถอนทหารได้จริงไหม ได้นานเท่าไหร่ จะซ้ำรอยโอบาม่าหรือไม่ ที่ถอนได้แค่ 2011 – 2014 แค่สามปี หลังจากนั้นก็ถูกสร้างเกมขัดแย้งเพื่อจะกลับส่งทหารเข้าไปที่เดิมในอิรัก เหมือนเดิม เพื่อจะสกัดโครงการ “เส้นทางสายพระจันทร์เสี้ยวชีอะห์” ของอิหร่านและพันธมิตรหรือไม่ ?
… Iran is also interested in the US-controlled Syrian territories, albeit for completely different reasons. Since the US invasion of Iraq in 2003, Iran has been working hard to establish a “Shia Crescent” from western Afghanistan to the Mediterranean Sea. The US withdrawal from Iraq in 2011 brought Iran one step closer towards achieving that goal. Yet, the rise of ISIL and the loss of a huge swath of territories in eastern Syria and western Iraq to the group denied Iran the possibility of keeping a land corridor open from Tehran to Damascus and to Hezbollah in Lebanon. Iran supported the US war on ISIL and even sought membership in the international coalition against the armed group, with the expectation that the US will leave the region once this fight is over. Now that the US is doing just that, Iran will resume its efforts to have the trans-Syria land corridor reopened by trying to increase its influence over northeast Syria.
… Saudi Arabia also has strategic interests in the area. Over the past year, Riyadh exerted tremendous efforts to convince President Trump to maintain a substantial military presence in northeast Syria to counterbalance both Turkey and Iran. Last November, the Saudis committed $100m to convince the US to keep its troops in Syria. At one point, Riyadh even offered to send troops to patrol the area alongside the US and the YPG. Hence the US decision to leave the area likely caused major disappointment for the Saudis and encouraged them to play an even more hands-on role in the country's future.
Cr.Jeerachart Jongsomchai
สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/