“ญี่ปุ่น ถูกบีบห้ามซื้อ หัวเหว่ยและ ZTE อเมริกาดึงเข้าร่วมสงครามการค้ากับจีน ”

... ขณะที่อีกซีกหนึ่งของโลก “แคนาดา” ที่เมื่อ 1 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมาได้จับกุมตัว นาง Meng Wanzhou ซีเอฟโอ และลูกสาวผู้ก่อตั้ง “หัวเหว่ย” ของหัวเหว่ย ที่สนามบินแวนคูเว่อร์ กำลังถูกบีบให้ส่งตัว ไปให้ “อเมริกา” ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง

จีนกับอเมริกาตกต่ำย่ำแย่และยังเป็นการทำให้แคนาดาเป็นศัตรูกับจีนอีกด้วย เป็นการหาแนวร่วมแบบกดดัน , อีกฝั่งหนึ่งของโลกก็กำลังเดือดเช่นกัน โดย “ญี่ปุ่น” กำลังจะระงับการซื้อสินค้าจากทั้ง “หัวเหว่ย และ ZTE” จากจีน ด้วย

... โดย “ญี่ปุ่น” ได้ประกาศแล้วว่ามีแผนในการระงับการซื้ออุปกรณ์การสื่อสารทั้งในรูปแบบเซิร์ฟเว่อร์และส่วนบุคคลจากทั้ง “หัวเหว่ย และ ZTE” โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2019 หน้านี้ โดยผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 รายของญี่ปุ่นประกาศแล้วว่าจะไม่ซื้อของจากทั้งสองบริษัทรายใหญ่จากจีน โดยอ้างเรื่องที่อาจจะมีการสอดแนบข้อมูลที่อ่อนไหวไปถึงรัฐบาลจีน โดยเชื่อมโยงกับข่าวที่ว่าเจ้าของหัวเหว่ยเคยเป็นทหารของกองทัพแดงจีนในอดีต รวมทั้งการไปขัดกับกฎหมายคว่ำบาตร “อิหร่าน” ของ อเมริกาด้วย

... นอกจากนี้ “อเมริกาและญี่ปุ่น” ยังกังวลกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคมของจีนที่สามารถจะฝังด้วยซอฟต์แวร์หรือไวรัสที่เป็นอันตรายซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญหรือทำให้ระบบปฏิบัติการล้มเหลวได้

... “ญี่ปุ่น” บอกว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลจะประมูลซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคม จะเน้นเรื่องราคาเป็นหลัก แต่ตอนนี้จะต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยด้วย

... การห้ามการซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Huawei ถูกขับออกจากตลาดอเมริกาและตามด้วยพันธมิตรของวอชิงตัน ได้แก่ “ญี่ปุ่น​ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ สหราชอาณาจักร” ทำให้การดำเนินการของ บริษัท ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีนลดลง ซึ่งมาตรการที่เข้มงวดเกิดเนื่องจากข้อกล่าวหาว่าบริษัท มีการเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน

... ในเดือนเมษายน ปี 2018 นี้ วอชิงตันระงับ ZTE จากการทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกัน เพราะว่าไปค้าขายอุปกรณ์ให้กับ “อิหร่านและเกาหลีเหนือ” ที่มีมาตรการคว่ำบาตรอยู่ ตามมาในเดือนสิงหาคม วอชิงตัน ก็ยังได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการป้องกันราชอาณาจักร (National Defense Authorization Act) หรือ NDAA ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรบริษัทต่างๆทั่วโลกที่ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Huawei และ บริษัทเทคโนโลยีอื่นของจีน

... “นาฟต้า” หรือเขตตกลงร่วมกันระหว่าง แคนาดา อเมริกาและ เม็กซิโก มีการลงนามร่วมมือกันในหลายด้านแบบกว้าง โดยเฉพาะการค้า แต่ล่าสุด 2 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา “ทรัมป์” ก็ออกมาบอกว่ามีแผนจะยกเลิกข้อตกลงนี้ทั้งหมดโดยใช้เวลา 6 เดือน ที่อาจจะต้องผ่านสภาคองเกรสก่อน

... และจากข่าวนั้น ทำให้หุ้นของ “หัวเหว่ย” ในตลาดตกลงมา 13% ทำให้กระทบกับการค้าของบริษัทอย่างมาก

... ขณะที่ฝ่ายจีนก็ออกมาเตือนญี่ปุ่นว่า “เราต้องการให้ญี่ปุ่นให้ปฏิบัติกับ บริษัทจีนด้วยความโปร่งใส เท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ" และในมุมมองของ "สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา" นั้น ญี่ปุ่นกำลังถูกดึงไปเข้าข้างฝั่ง "อเมริกา" แล้ว

... “หัวเหว่ย” เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับสองของโลก และเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของโลก และกำลังพัฒนาเรื่อง 5G ในระดับแนวหน้าของโลกด้วย

.
... Tokyo has announced plans to halt government purchases of Huawei and ZTE network equipment, citing security issues. The claims come amid a brewing diplomatic row over the Huawei CEO detained by Canada at Washington’s request.
Japanese central government ministries and the Self-Defense Forces have reportedly received procurement guidelines that effectively ban the offices from buying telecommunications equipment, servers and personal computers from Chinese telecom giants. The new rules will come into effect in 2019, after a training period.

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"