เกิดความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในวงการบล็อกเชนอีกครั้ง เมื่อวอลเล็ตที่เชื่อมโยงกับ LuBian — หนึ่งในกลุ่มเหมือง Bitcoin ของจีน — ได้โอนเหรียญจำนวนมหาศาล มูลค่ารวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ)

เพิ่งเปิดเผยคดีริบทรัพย์ Bitcoin มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรม Prince Group

เคลื่อนไหวครั้งแรกในรอบ 3 ปี

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Lookonchain ระบุว่า วอลเล็ตที่เชื่อมโยงกับ LuBian ได้เคลื่อนไหว 9,757 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ ไปยังวอลเล็ตใหม่ หลังจากไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ มานานกว่า 3 ปี

ต่อมา Arkham Intelligence ตรวจพบการโอนเพิ่มเติมอีก 2,129 BTC (ประมาณ 238 ล้านดอลลาร์) ส่งผลให้ยอดรวมของการโอนครั้งนี้อยู่ที่ 11,886 BTC หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์

เชื่อมโยงกับเหตุแฮกปี 2020

รายงานก่อนหน้านี้จาก Arkham เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เปิดเผยว่าในปี 2020 LuBian เคยถูกแฮก และสูญเสีย Bitcoin ไปกว่า 127,426 BTC (มูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์ในขณะนั้น)

จำนวน 11,886 BTC ที่เพิ่งเคลื่อนไหวตรงกับจำนวนใน “recovery wallets” ที่ LuBian เคยย้ายเหรียญไว้ก่อนหน้า ซึ่งอาจหมายถึงการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีเก่าดังกล่าว

DOJ เปิดคดีริบทรัพย์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์

ความเคลื่อนไหวของวอลเล็ต LuBian เกิดขึ้นหลังจากที่ DOJ สหรัฐฯ เปิดเผยคดีริบทรัพย์ Bitcoin ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์

คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Prince Holding Group ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเครือข่าย หลอกลวงคริปโตข้ามชาติ (crypto scam) ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วโลก

DOJ ระบุว่า Bitcoin ที่ยึดได้จะเข้าสู่กระบวนการ forfeiture หลังจากที่ Chen Zhi ผู้ก่อตั้งกลุ่ม ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน

เครือข่ายเหมืองคริปโตในเอเชียมีเอี่ยว

เอกสารของ DOJ ยังเปิดเผยว่า เงินจากการหลอกลวงถูกนำไปฟอกผ่านเครือข่ายการขุดคริปโต (crypto mining) หลายแห่ง ได้แก่

• Warp Data ในประเทศลาว

• บริษัทลูกในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ

• และ LuBian ในประเทศจีน

โดย LuBian เคยเป็นหนึ่งใน เหมือง Bitcoin ใหญ่ที่สุดในโลก และติดอันดับที่ 6 ของโลกในปี 2020

Bitcoin ที่ยึดได้อาจเข้าสู่ “คลังสำรองสหรัฐฯ”

หากศาลอนุมัติการริบทรัพย์ครั้งนี้ Bitcoin ทั้งหมดจะถูกนำเข้าสู่ คลังสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจกลายเป็นการเพิ่มทุนสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารจัดตั้ง “Strategic Bitcoin Reserve” หรือ คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ เพื่อเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่รัฐบาลได้จากการยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้คลังดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านดอลลาร์

มุมมองนักวิเคราะห์

ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนมองว่า การเคลื่อนไหวของวอลเล็ต LuBian ครั้งนี้อาจสะท้อนถึง “การตอบสนองภายในเครือข่าย” หลัง DOJ ประกาศยึดทรัพย์ และอาจมีการเคลื่อนย้ายเหรียญเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การดำเนินคดีของ DOJ ครั้งนี้เป็น “ท่าทีที่เข้มงวดที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่ออาชญากรรมคริปโตในประวัติศาสตร์” ซึ่งตอกย้ำว่า คริปโตไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้กระทำผิด อีกต่อไป