3 ปัจจัยที่อาจทำให้ Bitcoin ขึ้นถึง $125,000 ช้ากว่าคาด แม้ตลาดเริ่มฟื้นตัวหลังร่วงครั้งใหญ่

แม้ราคาของ Bitcoin จะกลับมายืนเหนือระดับ $114,000 ได้ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากเกิดเหตุการณ์ “Flash Crash” มูลค่ากว่า $19,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา — ซึ่งทำให้มูลค่า Open Interest ในตลาดฟิวเจอร์ส Bitcoin หายไปกว่า $15,000 ล้านดอลลาร์

— แต่การฟื้นตัวครั้งนี้อาจยังไม่เพียงพอสำหรับการขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $125,000 ในเร็ว ๆ นี้

นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้แนวโน้มระยะยาวของ Bitcoin ยังคงเป็นบวก แต่หลายปัจจัยสำคัญทั้งจาก เศรษฐกิจมหภาค, ตลาดอนุพันธ์, และ นโยบายโลกที่ยังไม่แน่นอน อาจทำให้รอบขาขึ้นของราคาใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้

1. ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน

ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง Bitcoin
ข้อมูลจาก Carlyle และ The Wall Street Journal ระบุว่า สหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มเพียง 17,000 ตำแหน่ง ในเดือนกันยายน ลดลงจาก 22,000 ตำแหน่ง ในเดือนก่อนหน้า — สะท้อนสัญญาณอ่อนแรงของตลาดแรงงาน

นักลงทุนจึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปถือพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ร่วงลงเหลือราว 3.5% ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น วันที่ 10 พฤศจิกายน จะครบกำหนดสิ้นสุด “ข้อตกลงพักรบภาษีนำเข้า” ระหว่างสหรัฐฯ–จีน หากการเจรจาไม่คืบหน้า อาจเกิดการเก็บภาษีรอบใหม่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดทั่วโลกอีกครั้ง

แม้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะโพสต์ผ่าน Truth Social ว่า

“ทุกอย่างกับจีนจะเรียบร้อยดี สหรัฐฯ อยากช่วย ไม่ได้อยากทำร้ายจีน!”

แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากแผนพูดคุยระหว่างทรัมป์และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) เท่านั้น

ขณะเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนท์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังกล่าวถึงมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีนว่าเป็น “การกระทำที่ยั่วยุ (provocative)” ซึ่งอาจกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของบริษัทต่างชาติและสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลก

2. ตลาดอนุพันธ์ Bitcoin ยังไม่ฟื้นเต็มตัว

แม้ราคา Bitcoin จะดีดกลับเหนือระดับ $114,000 ได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ชี้ว่า “ความเชื่อมั่นของนักเทรด” ยังไม่กลับมาเต็มที่

ตลาดบางแห่งยังคงมี ช่องว่างราคา (Arbitrage Gap) ระหว่างสัญญา Perpetual กับราคาสpot บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงความไม่สมดุลและความเสี่ยงจากคู่สัญญา (Counterparty Risk)

นอกจากนี้ Funding Rate ของสัญญา Bitcoin Perpetual Futures บน Binance ยังคงเป็น ค่าลบ หมายความว่า ฝั่ง Short ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ฝั่ง Long — ตรงข้ามกับตลาดอื่นที่เริ่มกลับมาเป็นบวกแล้ว ซึ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นในตลาด Binance ยังเปราะบาง

Joe McCann ซีอีโอของ Asymmetric Financial วิเคราะห์ว่า

“อาจมี Market Maker รายใหญ่ที่ถูกล้างพอร์ตในเหตุการณ์วันศุกร์ ซึ่งเป็นสาเหตุของช่องว่างราคาและความผิดปกติในหลายตลาด”

แม้ภาวะนี้อาจค่อย ๆ กลับสู่ปกติ แต่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะ “รอดูทิศทางก่อนกลับเข้าเทรด” ทำให้แรงซื้อระยะสั้นยังไม่เพียงพอที่จะขับเคลื่อนราคาให้ทะลุระดับ $120,000 ได้เร็ว ๆ นี้

3. ความไม่แน่นอนทางนโยบายและการกำกับดูแล

อีกหนึ่งแรงกดดันสำคัญคือ การขาดข้อมูลเศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาล (US Government Shutdown) ส่งผลให้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อและราคาขายส่ง (Wholesale Cost) ถูกเลื่อนออกไป

การขาดข้อมูลเหล่านี้ทำให้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องตัดสินใจนโยบายในภาวะ “มืดบอด” เพิ่มความไม่แน่นอนต่อตลาด ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ในวันอังคารนี้

นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังเริ่มกดดันให้หน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบความเป็นธรรมของตลาดอนุพันธ์ หลังเกิดเหตุการณ์ล้างพอร์ตมูลค่ากว่า $20,000 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว

Kris Marszalek ซีอีโอของ Crypto.com กล่าวผ่าน X ว่า

“หน่วยงานกำกับควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าการ Liquidate ในตลาดที่เกิดขึ้นจำนวนมากเป็นไปอย่างยุติธรรมหรือไม่ เพราะผู้ใช้จำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรง”

ขาขึ้นระยะยาวยังไม่เปลี่ยน แต่ต้องรออีกหน่อย

แม้ Bitcoin จะยังคงแสดงให้เห็นถึง “ความแข็งแกร่งระยะยาว (Long-term Resilience)” หลังผ่านเหตุการณ์ Flash Crash ครั้งใหญ่ แต่ปัจจัยมหภาคที่ยังไม่แน่นอน ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ, ความสัมพันธ์สหรัฐฯ–จีน, และความเชื่อมั่นในตลาดอนุพันธ์ อาจทำให้การปรับขึ้นสู่ระดับ $125,000 ต้องใช้เวลานานกว่าที่นักลงทุนคาดไว้

คลิก

Cr.cointelegraph

-----------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"