SEC ถกอุตสาหกรรมคริปโต ทบทวนกฎระเบียบใหม่ สะท้อนทิศทางเปลี่ยนแปลงภายใต้รัฐบาลทรัมป์

วอชิงตัน ดี.ซี. – คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังพิจารณาทบทวนแนวทางกฎระเบียบสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากมีการหารือระหว่างคณะทำงานด้านคริปโตของ SEC และตัวแทนจากอุตสาหกรรมหลายราย

โดยมีเป้าหมายเพื่อหาทางออกด้านกฎระเบียบที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจและตลาดคริปโตที่กำลังเติบโต

การหารือดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจลดการบังคับใช้กฎหมายบางกรณีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทคริปโต ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากแนวทางเข้มงวดในยุคของอดีตประธาน SEC แกรี เกนส์เลอร์

SEC เปิดโต๊ะหารือกับอุตสาหกรรมคริปโต

เอกสารที่ยื่นต่อ SEC เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของคณะทำงานด้านคริปโตของ SEC ได้พบปะกับตัวแทนจากบริษัทและผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ Crypto Council for Innovation, Zero Hash, Paradigm Operations และไมเคิล เซย์เลอร์ นักลงทุนคริปโตรายใหญ่ ซึ่งเป็นประธานของ Strategy เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางกฎระเบียบของสินทรัพย์ดิจิทัล

คณะทำงานนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม และนำโดย เฮสเตอร์ เพียร์ซ กรรมาธิการของ SEC ผู้สนับสนุนแนวคิดในการลดข้อจำกัดทางกฎหมายสำหรับนวัตกรรมทางการเงิน การประชุมดังกล่าวสะท้อนถึงแนวทางของ SEC ที่อาจปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการเงินในปัจจุบัน

SEC ทบทวนแนวทางการกำกับดูแล อาจยุติคดีความสำคัญ

หนึ่งในประเด็นสำคัญของการหารือคือข้อเสนอให้ SEC ทบทวนแนวทางเดิมที่จัดให้สินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน ขณะนี้ SEC กำลังพิจารณายุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับ Coinbase ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของโลก รวมถึงการตัดสินใจ ยุติการสอบสวน Robinhood Crypto และ OpenSea

การเปลี่ยนแปลงแนวทางเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ SEC อยู่ภายใต้การบริหารของ มาร์ก อุเยดะ รักษาการประธาน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหากวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติการแต่งตั้ง พอล แอตกินส์ อดีตกรรมาธิการ SEC ขึ้นเป็นประธานถาวร ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนการผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต

แนวโน้มใหม่: Regulatory Sandbox และการเปิดรับความเห็นจากสาธารณะ

เฮสเตอร์ เพียร์ซ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ภายใต้ชื่อ “There Must Be Some Way Out of Here” โดยเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบกฎหมายสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต เธอเสนอว่า สินทรัพย์ดิจิทัลบางอย่างอาจไม่ใช่หลักทรัพย์ และแนะนำแนวทาง Regulatory Sandbox เพื่อให้โครงการคริปโตสามารถดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่ลดข้อพิพาทด้านอำนาจกำกับดูแล

SEC เอื้ออุตสาหกรรมคริปโต หรือยอมอ่อนข้อให้บริษัทใหญ่?

แม้ว่า SEC จะยังไม่มีประธานถาวร และคณะทำงานด้านคริปโตเพิ่งก่อตั้งมาเพียง 1 เดือน แต่สัญญาณล่าสุดจาก SEC ชี้ให้เห็นว่าหน่วยงานกำกับดูแลแห่งนี้อาจปรับแนวทางไปสู่กฎระเบียบที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลของทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต โดยทรัมป์เองยังเปิดตัว Memecoin ของตัวเองเพียงไม่กี่วันก่อนเข้ารับตำแหน่ง อีกทั้ง SEC ยัง ถอนการอุทธรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นคดีที่เริ่มต้นตั้งแต่สมัยของแกรี เกนส์เลอร์

แม้กระนั้น การปรับกฎระเบียบให้เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโตอาจนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุ้มครองนักลงทุนและการกำกับดูแลตลาด นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมจึงต้องจับตาทิศทางของ SEC อย่างใกล้ชิด ในช่วงที่การเมืองและนโยบายของรัฐบาลมีผลโดยตรงต่ออนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล

คลิก

Cr.cointelegraph

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"