จุดจบประชาธิปไตย 14

นักประชาธิปไตยทั้งหลายโดยมากแล้วมองทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นโมเดลที่เจริญแล้ว ที่เราสมควรควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง // เราสมควรเอาเยี่ยงอย่างจริงหรือ? อย่างที่ได้เขียนแล้วก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีประชาธิปไตยในสหรัฐอย่างแท้จริง

เพราะว่าแม้ว่าสหรัฐจะมีรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดี หรือสส. และสว. และมีระบบถ่วงดุลของอำนาจฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการตามแบบของMontesquieu (คศ1689-1755) นักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศสที่ทักกี้เทอดทูนนักหนา แต่เอาเข้าจริงแล้ว ระบบการเมืองสหรัฐเปรียบเหมือนละครโรงใหญ่ที่มีผู้กำกับเขียนบทให้แสดง ไม่ว่านักการเมืองคนใดที่ขึ้นมามีอำนาจ ต่างต้องทำงานตามบทที่รัฐบาลเงาDeep Stateได้กำหนด มิเช่นนั้นจะต้องมีอันเป็นไปในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

ฉันใดฉันนั้น ประเทศที่ดูเหมือนว่าเจริญแล้วในยุโรปก็ไม่มีประชาธิปไตยเช่นกัน ทุกประเทศในยุโรปมีรัฐบาลเงาของตัวเองอยู่แล้ว รัฐบาลเงานั้นจะมีอำนาจมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประเทศ ดูผิวเผินแล้ว ประเทศในยุโรปมีประชาธิปไตย แต่พอดูภาพกว้างออกไป ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเยอรมันนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปนต่างก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐทั้งนั้น

นักประชาธิปไตยส่วนมากแบ่งแยกไม่ออกระหว่างประชาธิปไตยในประเทศ กับอำนาจอธิปไตยของประเทศ มีประโยชน์อะไรที่มีประชาธิปไตยในประเทศ (ซึ่งเอาเข้าจริงไม่มีอยู่แล้ว) แต่ประเทศไม่มีอำนาจอธิปไตย

โลกเราแบ่งออกเป็นประเทศผู้ล่า และประเทศผู้ถูกล่า ประเทศผู้ล่ามีอยู่ไม่กี่ประเทศ คือสหรัฐ และอังกฤษส่วนที่เหลืออีกเกือบ200ประเทศเป็นประเทศ รวมทั้งไทยแลนด์เป็นประเทศผู้ถูกล่าเกือบทั้งนั้น

จีนและรัสเซียตั้งลำได้แล้ว ไม่เป็นประเทศผู้ถูกล่าอีกต่อไป

สหภาพยุโรปมีจุดกำเนิดอย่างไร เป็นโมเดลของระบบประชาธิปไตยตริงหรือ? ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสหภาพยุโรป เพื่อให้ยุโรปอยู่ในสภาวะล้มลุกคลุกคลานในเวลานี้ เพื่อว่ายุโรปจะถูกกดดันให้กลายเป็นด่านหน้าในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย?

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า เป็นฝีมือของอีแร้ง หรือซีไอเอล้วนๆ

เป็นที่ชัดเจนว่า สหรัฐมีพิมพ์เขียวอยู่แล้วในการสร้างสหภาพยุโรปขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ที่จะใช้ยุโรปเป็นเครื่องมือในการสกัดอิทธิพลของรัสเซีย ทำลายรัสเซีย หรือทำสงครามกับรัสเซียในอนาคต ที่สำคัญการที่ยุโรปรวมตัวกันเป็นสหภาพ หรือเป็นสหรัฐแห่งยุโรป จะทำให้สหรัฐมีความสะดวกยิ่งขึ้นในการสั่งการให้ยุโรปหันซ้าย หันขวาที่บรัสเซลล์จุดเดียว โดยไม่ต้องล็อบบี้ทั้ง28ประเทศให้เสียเวลา

นายPrimose Evans-Pritchard คอลัมนิสท์ของThe Telegraphของอังกฤษเขียนบทความในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า หลังสงครามโลกครั้งที่2 ยุโรปอ่อนแอมาก เพราะว่าสภาพสังคม การเงินเศรษฐกิจและการเมืองล่มสลาย สหรัฐเป็นผู้ชนะสงครามและเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนการบูรณาการยุโรปใหม่ผ่านโครงการของMarshall Plan รัสเซียก็เป็นผู้ชนะสงครามเหมือนกัน แต่โลกถูกแบ่งออกเป็นค่ายเสรีนำโดยสหรัฐ และค่ายสังคมนิยม/คอมมิวนิสต์นำโดยรัสเซีย แต่แทนที่ต่างฝ่ายต่างอยู่ สหรัฐกลับเร่งพัฒนาการสร้างอาวุธและก่อสงครามเย็น โดยมีรัสเซียเป็นปฏิปักษ์

สหรัฐบีบให้ฝรั่งเศสและเยอรมันปรองดองกัน ซึ่งนับว่าเป็นก้าวแรกของการสร้างประชาคมยุโรป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐนายDean Achesonเป็นผู้ร่างพิมพ์เขียวนโยบายสร้างยุโรปให้เป็นประชาคมร่วมเศรษฐกิจ การเงินและการเมืองในการประชุมที่Foggy Bottom หรือที่ตั้งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ

รัฐบาลของประธานาธิบดีทรูแมนบีบให้ฝรั่งเศสบรรลุข้อตกลงกันกับเยอรมันเพื่อสร้างยุโรปให้เป็นปึกแผ่นโดยจะมีการกวาดต้อนประเทศอื่นๆเข้าร่วมทีหลัง ทั้งๆที่ควันหลงของสงครามโลกครั้งที่2ยังไม่จางลง ในปี1950 สหรัฐขู่ฝรั่งเศสว่า จะตัดเงินช่วยเหลือMarshall Planเนื่องจากผู้นำฝรั่งเศสดื้อเพ่ง ไม่ยอมต่ออิทธิพลของสหรัฐอย่างง่ายๆ

มีเอกสารลงบันทึกวันที่ 26กรกฎาคม ปี1950ที่เปิดเผยถึงแคมเปญของอีแร้งที่จะสนับสนุนให้เกิดสภายุโรปขึ้นมา ผู้เซ็นเอกสารนี้คือ นายพลWilliam Donovan หัวหน้าของOffice of Strategic Services หรือหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ต่อมาหน่วยงานนี้แปลงกายเป็นCentral Intelligence Agency หรือซีไอเอ

ซีไอเอตั้งหน้าม้าขึ้นมาทำหน้าที่ต้อนประเทศยุโรปให้เข้าคอกคือคณะกรรมการอเมริกันเพื่อการรวมตัวของยุโรปAmerican Committee for a United Europe แน่นอนนายโดโนแวนเป็นประธานของคณะกรรมการนี้ ซึ่งให้เงิน53.5%แก่กองทุนที่ทำงานเรื่องนี้ในยุโรป สมาชิกของคณะกรรมการอเมริกันเพื่อการรวมตัวของยุโรปประกอบด้วยนายWalter Bedell Smith และนายAllen Dulles ซึ่งต่อมาเป็นผู้อำนวยการของซีไอเอในทศวรรษที่1950s

เอกสารชี้ให้เห็นว่า สหรัฐปฏิบัติต่อผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปเหมือนลูกจ้าง และกีดกันไม่ให้ผู้นำยุโรปหาแหล่งเงินจากที่อื่นได้เพื่อที่จะตัดขาดจากอิทธิพลของวอชิงตัน ดีซี

การรวมตัวทางการเงิน หรือเงินสกุลร่วมยูโรเกิดขึ้นได้อย่างไร? เอกสารลงวันที่11 มิถุนายนปี1965 ระบุว่ามีคำสั่งให้รองประธานของประชาคมยุโรป (European Community) ให้เดินหน้าเพื่อสร้างการรวมตัวทางการเงินอย่างแข็งขัน และให้ปราบปรามการถกเถียงในเรื่องนี้จนกว่าการยอมรับในข้อเสนอนี้เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้แล้ว

http://www.telegraph.co.uk/ 

สหภาพยุโรปไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เป็นระบบอำนาจนิยมที่รวมศุนย์ในบรัสเซลล์โดยมีสหรัฐคอยคุมอยู่ข้างหลังอีกที ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยของยุโรปหลังจากเข้าเป็นสมาชิกของอียูก็ถือว่าสิ้นสุดความเป็นประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการ เพราะว่าไม่มีอำนาจอธิปไตย (Sovereignty) หรือเอกราชที่แท้จริง

มีประชาธิปไตย แต่ไม่มีอำนาจอธิปไตยก็จบเห่


thanong
18/11/2017

หมายเหตุ: ภาพประกอบคือ นายพลWilliam Donovan หัวหน้าของOffice of Strategic Services หรือหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ต่อมาหน่วยงานนี้แปลงกายเป็นCentral Intelligence Agency หรือซีไอเอ

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"