ตลาดห่วงเงินเฟ้อเพิ่มดันบอนด์ยิลด์สหรัฐฯพุ่งต่อเนื่อง ดันบอนด์ยิลด์ไทยตาม ชี้ช่วงที่เหลือมีโอกาส อัพไซส์แตะ 2% หวั่นกระทบต้นทุนรัฐบาล เหตุยังต้องกู้ต่อเนื่องจากงบขาดุล แนะควรลดการถือบอนด์ยาวเป็นระยะสั้นและเงินฝากเพื่อลดผลกระทบพร้อมกระจายลงทุนต่างประเทศ
การขาดแคลน เซมิคอนดักเตอร์ หรือ ชิพ ที่กำลังเป็นปัญหาของโลกในขณะนี้ เดินมาถึง จุดเปลี่ยนที่สำคัญ เมื่อสหรัฐออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ก่อนที่ปัญหานี้จะบานปลายกลายเป็นการแย่งชิงเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างบริษัทกับบริษัท อุตสาหกรรมกับอุตสาหกรรม
โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้มีการจำกัดการเดินทาง ทำให้แรงงานที่ทำหน้าที่เก็บผลไม้ขาดแคลนทั่วโลก เหล่าเกษตรกรเจ้าของฟาร์มผลไม้ก็ถูกบีบให้ต้องปล่อยผลไม้เหล่านั้นเน่าคาต้นหรือร่วงหล่นลงมาเอง ล่าสุด มีการนำ AI มาช่วยทำโดรนเพื่อเก็บผลไม้
เมื่อโลกเปลี่ยนไป ถึงเวลาปรับมุมมองต่อ "ฟองสบู่" โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นขาเดียวมาเป็นเวลามากกว่า 10 เดือน ทำให้เกิดข้อกังวลว่าอาจเกิดภาวะฟองสบู่ มาสู่การมองพื้นฐานที่เปลี่ยนไป จะพบว่าราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมามีความสมเหตุสมผล
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านแนวทางสร้างภูมิคุ้มกันโรค (ACIP) ในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้การรับรองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แล้ว
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"