... หลังจากยึดทองจาก "ออสเตรีย" ในเดือนมีนาคม ปี 1938 และได้ทองคำไปทั้งหมด 91 ตัน, จากนั้นในเดือนตุลาคม ปี 1938 นาซีก็บุกยึดทองต่อที่ "เชคโกสโลวาเกีย" ต่อทันที... หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลง ทำให้ "เชคโกสโลวาเกีย"
เป็นอิสระจากอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี ที่เป็นผู้แพ้หลักของสงคราม เชคกับสโลวัคแม้ภาษาจะใกล้เคียงกันแต่สำนึกในความเป็นชาติจะแยกกัน
... ประเทศเกิดใหม่นี้มีหลายชาติพันธุ์ ทั้งเชค สโลวัค เยอรมัน ฮังการี่ โปล รูเธเนี่ยน โรมาเนี่ยน ยิปซี และโครแอต , และชาวเยอรมันมีจำนวนหนึ่งในสี่ของทั้งหมด เท่ากับมากกว่า 3 ล้านคนจาก 14 ล้านคน
... จุดหมายของฮิตเลอร์ก็คือดึงเอาคนเชื้อสายเยอรมันโดยเฉพาะในเขต "Sudetenland" มาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไรช์ และเป็นเครื่องมือในการยึดเชคโกสโลวาเกียด้วย
... แม้จะเป็นประเทศเกิดใหม่ แต่ "เชคโกสโลวาเกีย" กลับมีทองคำมากมาย จากการระดมบริจาคทองคำในปี 1919 จาก(คล้ายหลวงตามหาบัวของไทย) เพื่อเป็นทรัพย์สินในทุนสำรองสกุลเงินตราระหว่างประเทศในการค้าขายสร้างชาติต่อไป ในตอนที่นาซีบุกนั่น เชคโกสโลวาเกีย มีทองคำมากถึง 95 ตัน
... ในทางการเมืองนั้น เชคโกสโลวาเกีย ได้ผูกสัมพันธ์ทางการเมืองกับ "ฝรั่งเศส" ที่ต้องการผูกมิตรกับประเทศเ่พื่อนบ้านทางใต้ของเยอรมัน เพื่อจะปิดล้อมเยอรมัน พวกเขายังมีชื่อเสียงเรื่องมีบริษัทผลิตรถยนตร์ชื่อดังอย่าง Skoda industrial
... ในปี 1925 ทั้ง "ฝรั่งเศสและเชคโกสโลวาเกีย" ได้ลงนามในการสนธิสัญญาในการปกป้องร่วมกัน ประเทศไหนถูกโจมตี อีกประเทศต้องมาช่วยเหลือ ซึ่งเยอรมันคือประเทศเป้าหมายในการร่วมกันสกัด, ที่เชคโกสโลวาเกีย ก็ทำสัญญาแบบนี้กับโซเวียตรัสเซียเช่นกัน
... "ฮิตเล่อร์" หวังใช้คนเยอรมันใน "เชคโกสโลวาเกีย" เป็นเครื่องมือในการยึดประเทศใหม่นี้ , โดยเอาดินแดนของเชคที่มีคนเชื้อสายเยอรมันอยู่นี้เป็นข้ออ้างในการเข้ายึดเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมัน, และเขาเชื่อว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส จะไม่เข้ามาุยุ่งเกี่ยวและขัดขวางการยึดในครั้งนี้
... นาซีเยอรมัน มีหลายแผนในการโจมตีเชคโกสโลวาเกีย ในหลายทางหนึ่งในนั้นคือการสร้างกระแสต่อต้านเยอรมันขึ้นในปราก โดยสายของคนเยอรมันเอง เพื่อจะเอาเป็นเหตุผลในการเข้ายึดประเทศ
... "เชคโกสโลวาเกีย" นั้นสังเกตและหวาดกลัวนาซีเยอรมันว่าจะยึดประเทศตนมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1938 จึงมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้า โดยได้มีการทยอยเอาทองคำไปเก็บในต่างประเทศ เหลือในประเทศแค่ 6 ตันเท่านั้น โดยตอนที่นาซีมาถึงเมืองปรากในเดือน มีนาคม 1939 นั้น ห้องนิรภัยเก็บทองคำนั้นนาซีเจอชั้นและห้องเปล่าเป็นส่วนใหญ่
... นาซีเยอรมันต้องการเอาเงินมาสร้างกองทัพรถถังจึงต้องเอาทองคำมาค้ำการพิมพ์เงินกันเงินเฟ้อ พวกเขาไม่ยอม จึงบีบให้รัฐบาลเชค บอกให้ธนาคารอังกฤษ หรือ Bank of England โอนทองคำจากบัญชีของเชคโกสโลวาเกีย มาให้เยอรมันที่เบอร์ลินเป็นจำนวน 2 ตัน, และบีบเชคให้บอกธนาคารสวิสให้โอนทองคำมาให้นาซีอีก 12.5 ตัน แบบเดียวกัน
... แต่ทองคำเชคยังเหลืออีก 74 ตัน ที่สามในสี่นั้นอยู่ที่ BOE ของอังกฤษ ที่ในสมัยนั้นเป็นแหล่งเก็บเงินเก็บทองคำที่ปลอดภัยของประเทศต่างๆในยุโรป ( แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีของฮิตเล่อร์ ทำให้ "อเมริกา" กลายเป็นหลุมหลบภัยแห่งใหม่ของธนาคารกลางของประเทศในยุโรป )
... นาซีเยอรมันใช้ทุกทางในการปล้นทองคำ รวมทั้งเอาปืนจ่อศรีษะผู้ว่าธนาคารชาติของเชคเพื่อบีบให้สั่งให้โอนทองคำจาก BOE ไปให้ธนาคารไรท์้ เยอรมันที่เบอร์ลิน อีก 23.1 ตัน , ทำให้รัฐสภาอังกฤษธนาคารโจมตีว่าช่วยนาซีปล้นทองคำทางอ้อมจนมีการออกกฏหมายให้ BOE ยึดทองคำเอาไว้ไม่โอนให้นาซีในวันที่ 27 มีนาคม 1939 แต่ก็ช้าไป
แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้นก็แก้ตัวว่าตามกฏหมายสากลของ Hague Protocol ในปี 1930, และ Brussele Protocol ในปี 1936 ธนาคารอังกฤษไม่มีสิทธิในการไม่ทำการโอนทรัพย์สินของประเทศเจ้าของสมบัตินั้น
... จากจุดนั้นทั่วยุโรปก็เริ่มคุยกันเรื่องการมีสิทธิจะกักเงินเจ้าของยามสงครามต่อนาซี และเป็นจุดที่ "อเมริกา" ก็เริ่มเข้ามาออกความเห็นในเวทีโลก โดยอาศัยศาลนิวยอร์คออกมาตัดสินว่ามีสิทธิในการสกัดสมบัติของนาซีในสงครามได้ ที่เป็นการเหมือนทำให้ห้องนิรภัยของธนาคารในอเมริกาถูกแสงไฟส่องและเป็นเป้าหมายใหม่ในการเก็บ "ทองคำ" จากยุโรป แทนอังกฤษและฝรั่งเศส ยาวมาจนถึงปัจจุบัน
... ที่จาก 1939 จนถึงปัจจุบัน หลายประเทศที่ฝากทองคำไว้กับอเมริกา หลังสงครามจบแล้ว ทวงไปก็ยังไม่ได้คืน
... สุดท้ายแล้ว นาซีเยอรมันก็ปล้นทองคำของ "เชคโกสโลวาเกีย" ไปทั้งหมด 45 ตัน
หนังสือ "Chasing Gold" George M. Taber
Jeerachart Jongsomchai / หมี CNN
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman