กนง.ห่วงตลาดเงิน เร่งดูแลเสถียรภาพเงินบาท

แม้ล่าสุดภาครัฐ จะมีการประกาศ ผ่อนคลายมาตรการ การควบคุมไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 และเตรียมพร้อมเปิดประเทศ ในวันที่ 1พ.ย.นี้ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาสู่ระดับปกติโดยเร็ว แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ได้ว่าเศรษฐกิจไทย

ก็ยังคงมีความเสี่ยง หลายประการ ทั้งจากในประเทศและ ต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องติดตามใกล้ชิด
ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ไตรมาส 3 ในฉบับเดือนก.ย.2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยทั้งในปีนี้และปีหน้า ยังคงเผชิญความเสี่ยงหลายประการ โดยเฉพาะปีนี้ ที่ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก ในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะเดียวกันแม้ปัจจุบัน เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
โดยเฉพาะ ตลาดการเงินโลกมี ความผันผวนสูง ขึ้นจากนโยบายการเงิน ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก ที่มีแนวโน้มทยอยลดการผ่อนคลาย โดยการลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล และพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป เหล่านี้ส่งผลให้ ค่าเงินและราคาสินทรัพย์ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ผันผวนขึ้น
รวมไปถึง นักลงทุนยังมีความกังวล ต่อสถานการณ์โควิด-19 และ จากมาตรการตรวจสอบและควบคุมบางภาคธุรกิจ ในประเทศจีน และความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท Evergrande ขณะที่ค่าเงินบาท เทียบดอลลาร์ มีการเคลื่อนไหวสองทิศทางมากขึ้น ตามตลาดการเงินโลกที่ผันผวน
ดังนั้นหากมองไปข้างหน้า ตลาดการเงินโลกยังมีแนวโน้มผันผวนสูง จึงเห็นควรให้ติดตามพัฒนาการของตลาดการเงินโลกและไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพและไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับตัว ของภาคธุรกิจ รวมถึงเร่งผลักดัน การสร้างระบบนิเวศใหม่ของ ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (FX ecosystem) อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับโครงสร้างของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทยให้สมดุลและยืดหยุ่นขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามเพิ่ม ทั้งพัฒนาการของมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 รวมถึง ความต่อเนื่องของแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ รวมถึงปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีความผันผวนสูง
ขณะที่ภาคส่งออกยังมีทิศทาง ขยายตัวต่ำลง และฟื้นตัวช้า จากปัญหา Supply disruption ของโลกที่รุนแรงยืดเยื้อกว่าคาดเล็กน้อย
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ยังส่งผลไปสู่เศรษฐกิจไทยปี 2565 ให้มีแนวโน้ม ขยายตัวต่ำลงกว่าที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมิ.ย. จากการระบาดที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งยังเผชิญกับแรงกดดัน จากตลาดแรงงานที่เปราะบาง มากขึ้น จากการระบาดหลายระลอก
ดังนั้น กนง.มองว่า โจทย์สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจไทย ปัจจุบัน คือ การดำเนิน มาตรการควบคุมการระบาดที่เอื้อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและรายได้ฟื้นตัว ต่อเนื่อง โดยควรมุ่งเน้นการรักษาสมดุล ระหว่างมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อควบคุมการระบาด และความสามารถในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันเห็นว่า มาตรการการคลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ในปัจจุบัน ทั้ง การเยียวยาและพยุงเศรษฐกิจ โดยในระยะต่อไป ควรเน้นการสร้างรายได้ และเตรียมมาตรการเพื่อฟื้นฟูและยกระดับ ศักยภาพทางเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การระบาดคลี่คลาย
นอกจากนี้ การขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพี เอื้อให้ภาครัฐสามารถ ผลักดันนโยบายเพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง แต่ระยะถัดไป ภาครัฐควรเตรียมแนวทางที่ชัดเจนเพื่อลด หนี้สาธารณะเพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังด้วย รวมถึงการหารายได้ใหม่เพิ่มเติมในอนาคต
Source: กรุงเทพธุรกิจ
เพิ่มเติม
- รายงานนโยบายการเงินไตรมาส 3/64

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"