การเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ชี้ว่า จีดีพีไตรมาสหนึ่งโตมากเป็นประวัติการณ์ถึง 18.3% แม้ว่าจะเทียบจากฐานที่ต่ำมากในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
แต่ยังถือว่าเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกยังคงมีแรงส่งในการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา แต่คำถามคือจีดีพีจีนถือเป็นสัญญาณที่ชี้ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังจะบูมและฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในปีที่แล้ว จริงหรือไม่ ?
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่าเศรษฐกิจได้เขาสู่ช่วงที่มีการเติบโตมากเป็นพิเศษ และอาจมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งกว่าช่วงก่อนเกิดการะบาดของไวรัสโคโรนาไปจนถึงปี 2566
ในขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งใหญ่สุดในโลก จะโตในอัตรา 10% ในช่วงไตรมมาสสอง และคาดว่าจะโตในปีนี้ 6.5% ในขณะที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีไม่กี่ไตรมาสที่จีดีพีสหรัฐโตถึง 3%
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับประมาณการจีดีพีของปี 2564 และปี 2565 ของสหรัฐขึ้น หลังจากที่สภาคองเกรสอนุมัติแผนใช้จ่ายงบประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่ได้อนุมัติไปแล้วก่อนหน้านั้น 900,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เงินที่มาจากแผนการดังกล่าวกำลังไหลเข้าสู่เศรษฐกิจ ข้อมูลบัตรเครดิตของแบงก์ ออฟ อเมริกา ชี้ว่า มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 67% ในช่วง7 วัน ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-3 เมษายน ในขณะเดียวกันมีการจ้างงานในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 916,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่คาด
ข้อมูลการเปิดรับสมัครงานของกระทรวงแรงงานระบุว่ามีการเปิดรับ 7.4 ล้านตำแหน่งเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 และสูงกว่าระดับก่อนการระบาด 5.1%
เจมี ดิมอน ซีอีโอ เจพี มอร์แกน ได้แสดงความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังจะโตมากเป็นพิเศษในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า และความเห็นของเขาได้สะท้อนถึงสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้คาดไว้
ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ตรงข้ามกับหนึ่งปีก่อนมาก ซึ่งในปีที่แล้วเศรษฐกิจต้องปิดตัวลงอย่างกะทันหัน และยังไม่มีวัคซีน การเดินทาง การรับประทานอาหารนอกบ้าน และความบันเทิงนอกบ้านในทุกรูปแบบหยุดชะงัก กำลังแรงงานส่วนใหญ่ต้องอยู่กับบ้านเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งเมืองและสำนักงานร้างผู้คน
แต่ในขณะนี้ชาวอเมริกันหนึ่งใน 5 คน ได้รับวัคซีนครบแล้ว มีการยกเลิกมาตรการต่าง ๆ มากขึ้น ประชาชนเริ่มเดินทางมากขึ้น ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านและเข้าพักในโรงแรมมากขึ้น
แบงก์ ออฟ อเมริกา ประเมินว่า ชาวอเมริกันมีเงินในบัญชีธนาคารประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมาจากการออมและจากเช็กที่ได้จากรัฐบาล ซึ่งไม่เคยมีเงินขนาดนี้ก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา
เงินเหล่านี้อาจเริ่มไหลเข้าสู่เศรษฐกิจเมื่อทุกธุรกิจตั้งแต่ภัตตาคารจนถึงโรงยิมพบว่ามีดีมานด์เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีนี้
แม้ว่าอัตราการว่างานในสหรัฐยังคงสูงถึง 6% แต่นักเศรษฐศาสตร์ของเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอ กล่าวว่า อาจลดลงเหลือ 3% ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 3.5% ก่อนเกิดการระบาด ขณะเดียวกันภาคบริการที่ได้รับแรงขับเคลื่อนจากผู้บริโภคก็กำลังจะเห็นดีมานด์เพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาคผลิตได้เดินเครื่องจักรเต็มสูบแล้ว
ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแกรนต์ ธอร์นตัน คาดว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะอยู่ที่ 6.6% ซึ่งจะเป็นปีที่แข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 2527 และคาดว่าจีดีพีจะโตในอัตรา 4.3% ในปี 2565
นั่นคือภาวะเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก คราวนี้มาดูตัวเลขจีดีพีของเศรษฐกิจอันดับสองของโลกกันบ้าง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จีดีพีในช่วงไตรมาสหนึ่งโตจากช่วงไตรมาสหนึ่งของปีที่ผ่านมา 18.3% เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกแข็งแกร่ง การเติบโตของจีดีพีจีนสอดคล้องกับประมาณการนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก ซึ่งคาดว่าจะโต 18.5% แต่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่รอยเตอร์ได้สำรวจมา 0.7%
ตัวเลขจีดีพีที่จีนแถลงนี้ใช้เทียบกับฐานไตรมาสหนึ่งของปี 2563 ซึ่งเศรษฐกิจจีนหดตัว 6.8% เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อโควิด-19 ระบาดสูงสุด แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งของปี 2562 จีดีพีขยายตัว 10.3%
การฟื้นตัวของจีนส่วนใหญ่เกิดจากการส่งออกแข็งแกร่ง เนื่องจากโรงงานเร่งผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ และการบริโภคภายในประเทศดีขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็ชี้ว่าจีนมีแรงส่งทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โต 6.5% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563
เศรษฐกิจจีนได้ฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่มีการระบาด เนื่องจากมีมาตรการควบคุมไวรัสอย่างเข้มงวด และมีมาตรการบรรเทาช่วยเหลือธุรกิจเป็นการฉุกเฉิน
แม้ว่าจะเริ่มต้นปี 2563 ด้วยความหายนะ แต่จีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่เพียงชาติเดียวที่มีการเติบโตในปี 2563 โดยโต 2.3% ขณะที่จีนได้ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2564 ไว้ 6%
หวัง เต๋า หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของยูบีเอส คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างสมดุลมากขึ้น โดยเมื่อนโยบายเงินและนโยบายคลังเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงสองสามไตรมาสข้างหน้า ซึ่งการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมก่อสร้างจะเปิดทางให้มีการบริโภคในครัวเรือนมากขึ้น
จางชู นักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก อีโคโนมิกส์ ได้อัพเกรดประมาณการจีดีพีจีนในปีนี้ จาก 8.2% เป็น 9.3% ขณะที่ไอริส แปง นักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็นจี เพิ่มประมาณการจาก 7% เป็น 8.6% เมื่อดูจากจีดีพีล่าสุด
ลูอิส คูอิส หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์เอเชียของออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิคส์ คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะมีแรงส่งต่อไปในช่วงไตรมาสสอง โดยตัวขับเคลื่อนการเติบโตจะมีการหมุนเวียนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่านโยบายเงินและนโยบายคลังที่ใจดีน้อยลง จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ความสามารถในการทำกำไรและความเชื่อมั่นที่มีมากขึ้น ควรจะช่วยหนุนการบริโภคและการลงทุนของบริษัท
อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอยู่ นั่นคือแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเข้มงวดนโยบาย แม้ว่าในขณะนี้เฟดยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย แต่เมื่อเศรษฐกิจบูม เฟดอาจกังวลว่าเศรษฐกิจจะร้อนแรงเกินไปและเกิดเงินเฟ้อ
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้ย้ำในที่ประชุมไอเอ็มเอฟเมื่อไม่นานมานี้ว่า เงินเฟ้อต่ำในรอบ 25 ปี และควรจะมีแนวโน้มเช่นนั้นต่อไป และยังบอกว่าเฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อคุกคาม
เศรษฐกิจที่กำลังบูมอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อค่าแรง นอกเหนือจากที่มีแรงกดดันต่อราคาสินค้าและบริการ แต่ข้อมูลการจ้างงานในขณะนี้ ไม่ชี้ว่ากำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล
เมื่อดูจากภาวะและประมาณการของเศรษฐกิจอันดับหนึ่งและอันดับสองของโลก น่าจะเชื่อได้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังจะบูมจริง ๆ แต่มีข้อแม้ว่าประเทศต่าง ๆ ต้องสามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้ดีกว่าเก่า และมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนจนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม
- Booming US economy is good news for emerging Asia’s exporters
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you