"จีน" เดินหน้าขยายการใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัล หรือ อีกชื่อเรียกว่า ดิจิทัลเหรินหมินปี้ (Digital Renminbi) อย่างรวดเร็วในสถาบันการเงินหลักๆ และเว็บไซต์ออนไลน์ ร้านค้าออฟไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคจ่ายชำระเงิน ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ขณะนี้มีธนาคารขนาดใหญ่ที่รัฐบาลจีน เป็นเจ้าของ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน, ธนาคารแห่งการสื่อสาร, ธนาคารเพื่อ การก่อสร้างจีน, ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมแห่งประเทศจีน และธนาคารไปรษณีย์จีน ได้เริ่มติดตั้งกระเป๋าเงิน ดิจิทัลวอลเล็ตให้บริการแล้ว ลูกค้าสามารถสมัครเข้าร่วมรายการ ใช้จ่ายหยวนดิจิทัลผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น และสแกนคิวอาร์โคด ในระหว่างที่ ธนาคารเหล่านี้ทำการทดลองระบบ ปัจจุบันในกรุงปักกิ่งมีร้านค้าจำนวนมากที่เข้าร่วม ทดลองโดยใช้หยวนดิจิทัลชำระเงิน รวมถึงร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และบริษัทขนส่งสินค้า
ขณะที่เครื่องจำหน่ายบัตรรถไฟฟ้าใต้ดินในนครเซี่ยงไฮ้ และ แหล่งชอปปิงในเขตสูเจียหุยในเมืองเดียวกันก็เริ่มรับชำระเงินหยวนดิจิทัลแล้ว เหมือนกัน
ขณะที่นักช้อปทั้งหลายสามารถ ใช้จ่ายเงินดิจิทัลเหรินหมินปี้ ผ่าน เจดีดอทคอม (JD.com) และเหม่ยถวน เตี่ยนผิง แพลตฟอร์มดิลิเวอรี่ยักษ์ใหญ่ของจีน รวมถึงแพลตฟอร์ตอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อื่นๆ ในประเทศ
"มาร์ติน ฌอร์แซมเป้" ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันปีเตอร์สัน เพื่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า หยวนดิจิทัลกำลังปลดแอกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ให้บริการอีเพย์เมนท์ของจีน ก่อนที่ จะคิดแข่งขันสกุลเงินดอลลาร์ใน ระดับสากล
"หลายคนพูดถึงสกุลเงินดิจิทัลเหรินหมินปี้ ว่า ช่วยยกระดับความเป็นสากลให้กับ เงินหยวน" ฌอร์แซมเป้กล่าวกับรายการ สตรีท ไซด์ เอเชียทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี และระบุว่า เรื่องน่าสนใจมาก ต้องจับตา
ธนาคารกลางจีนกำลังพัฒนาเงิน หยวนดิจิทัลให้มีความเสถียรมากขึ้น และลักษณะการทำงานก็คล้ายกับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ผ่านมา มีเงินหยวนดิจิทัลจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.82 ล้านหยวนหมุนเวียนอยู่ในระบบระหว่างทำการทดสอบ
ฌอร์แซมเป้ กล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยที่ช่วย กระตุ้นผลักดันให้เกิดหยวนดิจิทัลคือรัฐบาลต้องการเข้าไปสนับสนุนและควบคุม ผู้ให้บริการชำระเงิน อย่าง อาลีเพย์ บริษัท ในเครือของอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ในวงการอีคอมเมิร์ซ และวีแชทเพย์ ของเทนเซ็นต์ ซึ่งปัจจุบันทั้งสองแห่งครองสัดส่วนการให้บริการชำระเงินดิจิทัลในจีน ประมาณ 95%
สิ่งแตกต่างที่เกิดขึ้นกับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ทั่วโลก พบว่า การชำระเงินผ่านมือถือของจีน ไม่ว่าจะอาลีเพย์ และ วีแชทเพย์ สามารถเข้ามาแทนที่การใช้จ่ายเงินสดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยฌอร์แซมเป้ มองว่า จีนเป็นประเทศที่ก้าวหน้าที่สุด ในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ สกุลเงินหยวนดิจิทัลยังไม่ค่อยเหมือน คริปโตเคอเรนซี อย่างบิทคอยน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนสูง "สกุลเงินหยวนดิจิทัลมีความปลอดภัยสูงมาก และความเสี่ยงต่ำ มันถูกออกแบบให้มีมูลค่าเท่ากับเงินหยวนทั่วไป ดังนั้น จึงไม่ควรกังวลเรื่องราคาผันผวน" ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันปีเตอร์สัน ระบุ และกล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลของจีนค่อนข้างปลอดภัย ตราบใดที่รัฐบาลปักกิ่งเข้ามาดูแลและควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย
นอกจากประเทศจีนแล้ว คาดว่า สวีเดนจะเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วได้เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เฟซบุ๊คเปิดตัว สกุลเงินดิจิทัลชื่อ ลิบรา และรีแบรนด์เป็นดิเอม (Diem) ได้ปลุกกระแสความสนใจให้กับคริปโตเคอเรนซีอย่างมาก จนทำให้ธนาคารกลางของสหรัฐเกิดความกังวลว่า บริษัทเอกชนจะเข้ามาครอบครองกลไกการชำระเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับอาลีเพย์และวีแชทเพย์ ต่างก็มีอิทธิพลมากในระบบการชำระเงินดิจิทัลในจีน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you