แค่เงินสดไม่พอ ‘เมเจอร์’ เริ่มทดลองจ่ายค่าตั๋วหนังด้วย ‘บิตคอยน์’ นำร่องที่สาขารัชโยธินเป็นแห่งแรก

หลังจากใช้เวลาศึกษาและเตรียมความพร้อมมานานกว่า 1 ปี ในที่สุด ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’ ได้ตัดสินใจที่จะเปิดโครงการ ‘ทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล’ โดยเบื้องต้นจะรับแค่เงินสกุล ‘บิตคอยน์’ เท่านั้น

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในแง่ของการจ่ายเงิน ซึ่งวันนี้ได้มีความเป็น Cassless มากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เมเจอร์ไม่ได้เป็นผู้ถือ License เอง ดังนั้นการจ่ายเป็นสกุลเงินดิจิทัลจึงต้องจับมือกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซึ่งได้แก่ ซิปเม็กซ์ (Zipmex) แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล และ แรพิดซ์ (Rapidz) ผู้ให้บริการระบบบริหารการรับแลกสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล
วิธีการซื้อคือ ลูกค้าจะต้องมีแอปฯ ของ Rapidz ก่อน หลังจากนั้นไปที่ตู้จำหน่ายตั๋วหนังอัตโนมัติ E-Ticket โดยกดเลือกภาพยนตร์และตำแหน่งที่นั่งที่ต้องการ แล้วเลือกใช้ E-Wallet และเลือก Rapidz จากนั้นจะมี QR Code ให้สแกนและชำระได้เลย อย่างไรก็ตาม Rapidz เป็นเพียงวอลเล็ตเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องมี Zipmex เข้ามาทำหน้าที่เปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลเป็นเงินบาท
วิศรา โชคดีทวีอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แรพิดซ์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความที่คริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนที่สูง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ Rapidz เป็นผู้รับไว้
“ปกติแล้วคริปโตเคอร์เรนซีจะใช้เวลาเดินทาง 5-10 นาทีกว่าที่จะถึงปลายทาง แต่การแลกนั้นจะคำนวณในช่วงเวลาที่กดเลย ดังนั้นระยะเวลาที่เหลือ หากราคาขึ้นหรือลงก็จะเป็นความเสี่ยงที่ Rapidz รับไว้เอง” วิศรา กล่าวพร้อมกับเสริมว่า สาเหตุที่ให้แลกเฉพาะบิตคอยน์เป็นเพราะมีคนรู้จักมากที่สุด
รายได้ของ Rapidz มาจากค่าธรรมเนียม ซึ่งเบื้องต้นสำหรับการจับมือกับเมเจอร์นั้นจะไม่คิดค่าธรรมเนียมเป็นเวลา 1 ปี Rapidz คาดหวังว่าหลังจากนี้ผู้ใช้บริการจะเพิ่มเป็นหลักหมื่นคน ทั้งนี้นอกเหนือจากเมเจอร์แล้ว Rapidz ยังอยู่ในระหว่างพูดคุยกับแมคโดนัลด์ และวอริกซ์ สำหรับสำหรับใช้จ่ายด้วยเงินสกุลดิจิทัลอยู่ด้วย
การทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัลจะนำร่องที่สาขารัชโยธินเป็นแห่งแรกเป็นแห่งแรก นรุตม์อธิบายว่า สาเหตุที่เป็นสาขานี้เพราะติด Top 3 ของจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดของเมเจอร์ อีกอย่างฐานลูกค้าหลักเป็นวัยรุ่นและคนทำงาน จึงมีโอกาสที่จะใช้งานสูง
“หากมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยเดือนละหลักพันถึงหลักหมื่นเราก็แฮปปี้แล้ว” นรุตม์กล่าวพร้อมกับเสริมว่า สามารถแลกได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป สำหรับสาขาต่อไปนั้นกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา และในอนาคตอาจจะสามารถนำเงินสกุลดิจิทัลมาจ่ายค่าป๊อปคอร์นหรือโบว์ลิงก็เป็นไปได้
ที่ผ่านมาเมเจอร์ยกเครื่องระบบจ่ายเงินมาโดยตลอด เนื่องจากหากพัฒนาให้มีความสะดวกจะกระตุ้นให้ลูกค้าอยากมาดูหนังบ่อยขึ้น ปัจจุบันมีการซื้อตั๋วผ่านตู้ 80% ผ่านแอปฯ 10% และหน้าเคาน์เตอร์ 10%
เป้าหมายของเมเจอร์คือ ต้องการกระตุ้นให้คนซื้อตั๋วผ่านแอปฯ ให้มากขึ้น โดยปีนี้คาดหวังว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 20% โดยผลพลอยได้ที่ตามมาคือจะทำให้เมเจอร์สามารถลดต้นทุนได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น จากที่เคยมีพนักงานที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วมากกว่า 10 คน ปัจจุบันเหลือเพียง 1-2 คนเท่านั้น
โดย ถนัดกิจ จันกิเสน
Source: The Standard Wealth

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-----------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman

Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"