จีนตอบโต้มาตรการลงโทษของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ออกระเบียบใหม่ปกป้องบริษัทจีนจากกฎหมายต่างชาติที่ “ไม่เป็นธรรม” และอนุญาตให้ศาลจีนลงโทษบริษัททั่วโลกที่ปฏิบัติตามข้อจำกัดของต่างชาติได้
กระทรวงพาณิชย์จีนได้แถลงว่า ระเบียบในการตอบโต้ต่อการใช้กฎหมายต่างชาตินอกอาณาจักรอย่างไม่เป็นธรรม อนุญาตให้เจ้าหน้าที่จีนออกคำสั่งให้บริษัทหรือประชาชนในจีน ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อจำกัดของต่างชาติ
มาตรการเหล่านี้จะมีผลโดยทันที และถึงแม้ว่าไม่ได้มีการพูดถึงสหรัฐโดยตรง แต่จีนได้ร้องเรียนมานานเกี่ยวกับการใช้กฎหมายนอกอาณาเขตของสหรัฐผ่านมาตรการคว่ำบาตรและออกข้อจำกัดต่อการค้า
ระเบียบใหม่ยังอนุญาตให้บริษัทหรือพลเมืองของจีนฟ้องเรียกค่าเสียหายในศาลจีนได้ หากเสียประโยชน์เพราะการใช้กฎหมายของต่างชาติ และอาจทำให้บริษัททั่วโลกถูกฟ้องร้องตามกฎหมายในจีนฐานทำตามมาตรการลงโทษของสหรัฐได้
นิโคลัส เทอร์เนอร์ ทนายความบริษัท สเต็ปโท แอนด์ จอห์นสัน แอลแอลพี ในฮ่องกง กล่าวว่า คำสั่งใหม่จะมีผลบังคับใช้ในประเทศจีนเป็นหลัก โดยจะมีการฟ้องร้องในศาล โดยกลุ่มคนที่เชื่อว่าได้รับความเสียหายจากการทำตามมาตรการลงโทษของต่างชาติ
เทอร์เนอร์ กล่าวว่า บริษัทที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจในจีนมาก อาจจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายตรงข้ามในจีนที่ทำตามคำสั่งห้ามที่ออกตามกรอบการทำงานใหม่นี้ แต่ยังต้องดูว่ามันจะส่งผลให้บริษัทไม่กล้าทำตามมาตรการลงโทษของสหรัฐในภูมิภาคหรือในที่อื่น ๆ หรือไม่
การเคลื่อนไหวของจีนมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขยายการรณรงค์ต่อบริษัทจีนในวันท้าย ๆ ของการทำงาน ซึ่งยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกตึงเครียดมากขึ้น
ทอมมี่ สี นักเศรษฐศาสตร์ของโอเวอร์ซี ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ป ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ในการออกระเบียบใหม่ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของคณะบริหารของโจ ไบเดน จีนมีวัตถุประสงค์เพื่อขีดเส้นในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทจีน
ในสมัยของทรัมป์ สหรัฐได้ออกข้อจำกัดทางกฎหมายหลายชุดต่อธุรกิจจีน เช่น จำกัดการขายเทคโนโลยีของสหรัฐให้กับบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ โค และบริษัทอื่น ๆ ให้นักลงทุนถอนการลงทุนออกจากบริษัทที่มีสายสัมพันธ์กับทหารจีน และขึ้นบัญชีดำบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เมื่อต้นเดือนนี้ สหรัฐห้ามทำธุรกรรมด้วยแอปพลิเคชันจีน อย่างเช่น อาลีเพย์ ของแอนต์ กรุ๊ป และกระเป๋าเงินดิจิทัลของบริษัท เทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ นอกจากนี้ยังพยายามบีบให้ไบต์แดนซ์ขายติ๊กต็อก และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กได้เริ่มทำตามข้อเรียกร้องของคณะบริหารของทรัมป์ที่จะเพิกถอนบริษัทจีนจำนวนหนึ่ง
ในตอนแรกจีนตอบโต้ความพยายามเหล่านั้นของสหรัฐด้วยการจัดทำบัญชีรายชื่อ “บริษัทที่ไว้ใจไม่ได้” โดยมีเป้าหมายเพื่อลงโทษบริษัท องค์กร หรือบุคคลที่ทำลายความมั่นคงของชาติ แต่ไม่ได้ระบุว่ามีใครอยู่ในบัญชีดังกล่าวหรือไม่ แต่ระเบียบใหม่เหล่านี้จะเพิ่มเข้าไปในชุดเครื่องมือที่จีนยังไม่ได้ใช้
รัฐบาลปักกิ่งยังกดดันแคนาดาหลายครั้งให้ปล่อยตัว เมิ่ง ว่านโจว ลูกสาวของเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท หัวเหว่ย หลังจากที่ทางการแคนาดาคุมขังเธอเป็นเวลากว่า 1 ปี ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ เพราะสงสัยว่าฝ่าฝืนมาตรการลงโทษของสหรัฐที่มีต่ออิหร่าน
กลไกการทำงานใหม่นี้เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานวางแผนสูงสุดจะประเมินคดีที่เกี่ยวข้อง และการตัดสินใจใด ๆ จะเป็นไปตามการพิจารณาต่าง ๆ เช่น ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ และมีแนวโน้มที่จะเกิดผลกระทบต่ออธิปไตยของจีนและสิทธิตามกฎหมายของสถาบันจีนหรือไม่
จีนไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ใช้มาตรการเช่นนี้ มีการบัญญัติกฎหมายแบบเดียวกันนี้ในสหภาพยุโรป (อียู) และหลายประเทศ เช่น แคนาดาและเม็กซิโก
เทอร์เนอร์ กล่าวว่า ภาคการเงินจะได้รับผลกระทบจากระเบียบใหม่นี้มากสุด คำสั่งนี้อาจมีผลให้สถาบันการเงินในจีนต้องประมวลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกคว่ำบาตรมากกว่าเก่า แต่ไม่ได้หมายความว่าสถาบันการเงินจะฝ่าฝืนมาตรการลงโทษของสหรัฐตราบเท่าที่กิจกรรมของพวกเขาไม่ขึ้นอยู่กับอำนาจศาลของสหรัฐ
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม
- China Pushes Back Against U.S. Sanctions With New Rules :
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you