เวียดนามถือเป็น 1 ใน 2 ประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเป็นประเทศบิดเบือนค่าเงินร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำให้เวียดนามอาจไม่สามารถเข้าดูแลค่าเงินได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ค่าเงินดองมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น แต่ประเด็นนี้อาจไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของเวียดนามมากนัก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางการเวียดนามจะทยอยปรับค่าเงินดองให้สูงขึ้นในช่วง 5-7% สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่พบว่าเวียดนามกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าความเป็นจริง 4.2-5.2% ในปี 2562 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินดองจะไม่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากโครงสร้างการผลิตของเวียดนามส่วนมากเน้นการใช้แรงงานเข้มข้น
ประกอบกับปัจจัยแวดล้อมในการผลิตที่ยังนับได้ว่ามีต้นทุนในการดำเนินงานที่ต่ำโดยเปรียบเทียบ ทำให้ค่าเงินดองที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นเพียง 5-7% ไม่น่าจะกระทบต่อส่วนต่างกำไร (Margin) จากการส่งออกมากนัก
หากยกตัวอย่างอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอของเวียดนามที่ในปี 2561 ยังคงมีส่วนต่างกำไรเฉลี่ยสูงมากกว่า 15% ขณะที่การแข็งค่าของเงินดองเวียดนามจะส่งผลทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่าไทยเกือบสองเท่าตัวก็เอื้อให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในระยะข้างหน้าด้วยค่าเงินดองมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันให้แข็งค่าต่อเนื่องจากโครงสร้างทางการค้าที่เกินดุล ทางการเวียดนามคงทยอยปรับค่าเงินดองให้แข็งค่าขึ้นในจังหวะที่เหมาะสม อันช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามมีระยะเวลาในการปรับตัวเพียงพอต่อทิศทางการแข็งค่าของเงินดองในระยะข้างหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดทอนผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกสินค้าและการตัดสินใจลงทุนในระยะยาวของนักลงทุน ขณะที่ยังสามารถที่จะลดแรงกดดันจากข้อกล่าวหาในการบิดเบือนค่าเงิน
ส่วนกรณีของประเทศไทย ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่เฝ้าจับตา (Monitoring List) ในกรณีการแทรกแซงค่าเงินหลังจากนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงไต้หวัน อินเดีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนี อิตาลี สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่ยังไม่ถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงินเหมือนกับเวียดนามและสวิตเซอร์แลนด์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปว่า การพิจารณาประเทศที่บิดเบือนค่าเงินของสหรัฐฯ ในรอบนี้แม้จะไม่มีไทย ซึ่งก็สร้างความอุ่นใจให้ธุรกิจส่งออกของไทยในระดับหนึ่งว่าจะไม่ถูกสหรัฐฯ ใช้นโยบายกดดันการค้ากับไทยได้โดยง่ายในปี 2564 แต่การที่ประเทศเวียดนามถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน มีผลให้ค่าเงินดองของเวียดนามเทียบกับดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวคงไม่ทำให้เวียดนามสูญเสียความได้เปรียบในการทำตลาดส่งออก เนื่องจากหากค่าเงินดองแข็งค่าขึ้นก็น่าจะเอื้อประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าปัจจัยการผลิตขั้นกลางของเวียดนามที่ยังต้องพึ่งพาจากต่างประเทศถึง 54% ของการนำเข้าทั้งหมด ประกอบกับโครงสร้างการผลิตที่เอื้อให้สินค้าเวียดนามมีต้นทุนต่ำ จึงน่าจะบริหารจัดการลดส่วนแบ่งกำไรลงบางส่วนเพื่อรักษาตลาดไว้ได้ ทำให้เวียดนามจะยังคงความสามารถในการแข่งขันในด้านการผลิตและส่งออกไว้ได้อีกระยะหนึ่ง
สำหรับไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงเฉพาะหน้า โจทย์สำคัญของทางการไทยคงต้องประคับประคองเศรษฐกิจและเสถียรภาพของกลไกหลักต่างๆ ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้ก่อน ส่วนของความสามารถในด้านการแข่งขันนั้น ไทยควรจะเร่งเดินหน้าเจรจาข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ทั้ง CPTPP และ EU-Thailand
โดย ศรัณย์ กิจวศิน
Source: The Standard Wealth
------------------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you