จับตาเกมการเงินดิจิทัลเชิงรุกของจีน

แวดวงการเงินดิจิทัลในช่วงไม่กี่เดือนมานี้มีข่าวใหญ่น่าเก็บมาฝากกันค่ะ ซึ่งก็น่าคิดว่าการเดินเกมการเงินดิจิทัลเชิงรุกของประเทศยักษ์ใหญ่ใกล้บ้านจะเกี่ยวโยงมาถึงประเทศไทยอย่างไร

1.ข่าวการออกใช้เงินดิจิทัลรายใหญ่ในโลก เมื่อกลางเดือน ต.ค.63 ธนาคารกลางจีนออกเงินหยวนดิจิทัล (DCEP : Digital Currency Electronic Payment) มูลค่า 10 ล้านหยวน มาสุ่มแจกเป็นอั่งเปาให้กับ 50,000 คนในเมืองเซินเจิ้น กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลสำหรับประชาชนใน 4 เมืองสำคัญ ได้แก่ เซินเจิ้น เฉิงตู ซูโจว สงอัน ถือเป็นการเปิดตัวใช้เงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลางครั้งแรกของโลก หลังจากซุ่มพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อลดอิทธิพลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยกระดับเงินหยวน โดยคาดกันว่าจีนมีแผนจะออกใช้ทั่วประเทศภายในปี 2565
พอช่วงปลายเดือน พ.ย. สมาคมลิบร้า (Libra Association) ที่ก่อตั้งโดย Facebook และพันธมิตรประกาศพร้อมออกใช้เงินดิจิทัลของตัวเองตั้งแต่ปีใหม่ 1 ม.ค.64 นี้ เป็นแบบหนุนหลังด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแผนจะเปิดตัวเงินดิจิทัลแบบหนุนหลัง ด้วยตะกร้าเงินหลายสกุลในภายหลัง อันที่จริงสมาคมลิบร้าได้ประกาศแผน Libra 1.0 ครั้งแรกไปเมื่อกลางปี 62 โดยมุ่งหวังจะเป็น global currency เข้าถึงสมาชิก Facebook ได้ง่าย แต่แผนการนี้ต้องสะดุดลงเมื่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ และองค์กรกำกับดูแลด้านการเงินระหว่างประเทศเริ่มกังวลว่า Libra อาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลกเพราะขาดการกำกับดูแลที่ดีพอ จนต้องขอหารือเพื่อปรับคุณสมบัติ Libra 1.0 เป็น Libra 2.0 ให้สามารถออกใช้ได้
2.ข่าวแผนการขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท Ant Financial ถูกระงับกะทันหัน ในช่วงต้นเดือน พ.ย. ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ประกาศระงับแผนขายหุ้น IPO ของ Ant Financial บริษัท Fintech จีนยักษ์ใหญ่ของแจ๊ค หม่า กลายเป็นข่าวดังทั่วโลกเพราะเป็นดีลใหญ่ที่น่าจับตา แถมยังเป็นการคว่ำดีลก่อนเปิดขาย IPO แค่ 2 วันเท่านั้น เพราะเริ่มกังวลว่าได้ปล่อยให้ธุรกิจ FinTech เติบโตเร็วมาก ถึงจะช่วยให้คนจีนเข้าถึงสินเชื่อรายย่อยง่ายขึ้น แต่ก็ส่งผลให้ประเทศจีนมีปัญหาหนี้สูง
หากดีลครั้งนี้สำเร็จ บริษัท Ant จะระดมทุนได้เกือบ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดในโลก และจะมีความสำคัญเชิงระบบต่อประเทศจีนสูงขึ้นอีก เหตุการณ์นี้จึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางการเงินครั้งสำคัญจากที่เคยเปิดทางสะดวกให้ Fintech มาเป็นกำกับดูแลเชิงรุกและระมัดระวังมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าข่าวการออก DCEP ของจีน นอกจากจะตอบโจทย์สกุลเงินดิจิทัลสำหรับโลกอนาคตได้ไม่น้อยหน้า Libra แล้ว ยังเป็นทางเลือกในการชำระเงินให้ประชาชน แก้เกมบริษัท Fintech ยักษ์ใหญ่ในจีนที่โตเร็วจนผูกขาดระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศมีบทบาทมากกว่าระบบธนาคารจีนไปแล้ว
สำหรับไทย หากเทรนด์เงินดิจิทัลหลายสัญชาติที่ว่าแผ่มาถึง ซึ่งอาจเป็นได้ เพราะไทยค้าขายลงทุนกับจีนเยอะ และคนไทยใช้ Facebook หลายสิบล้านคนที่เข้าถึงการทดลองใช้เงิน Libra ได้ไม่ยาก อาจต้องดูกระแสตอบรับว่าคนไทยจะยังชอบใช้เงินบาทชำระค่าสินค้าหรือทำธุรกรรมการลงทุนอยู่หรือไม่ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในฐานะธุรกิจ/ผู้บริโภคหรือเป็นผู้กำกับดูแลการเปลี่ยนแปลงของโลกการเงินดิจิทัลรอบตัวจึงน่าติดตามอย่างใกล้ชิดค่ะ
คอลัมน์ บางขุนพรหมชวนคิด: ดร.ฐิติมา ชูเชิด
ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
**บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลจึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด**
Source: ไทยรัฐออนไลน์

คลิก

----------------------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students


เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"