การเลือกตั้งสหรัฐ

ผลการเลือกตั้งในรัฐ Georgia, North Carolina, Pennsylvania และ Nevada ที่กำลังนับคะแนนอยู่ในตอนนี้กลายมาเป็นตัวชี้ขาดว่าใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยหากอดีตรองประธานาธิบดี Biden ชนะในรัฐใดรัฐหนึ่งก็จะมีเสียงเกินครึ่ง

ขณะที่ประธานาธิบดี Trump ต้องชนะในทั้ง 4 รัฐนี้จึงจะมีเสียงเพียงพอให้สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่สองได้

การนับผลคะแนนเลือกตั้งในรัฐ Georgia, North Carolina, Pennsylvania และ Nevada ยังคงดำเนินต่อเนื่องในวันนี้ โดยประธานาธิบดี Trump มีคะแนนขึ้นนำในทั้ง Georgia, North Carolina และPennsylvania แต่การตัดสินว่าใครจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ โดยหากอดีตรองประธานาธิบดี Biden ชนะในรัฐใดรัฐหนึ่งก็จะมีเสียงเกินครึ่ง ขณะที่ประธานาธิบดี Trump ต้องชนะในทั้ง 4 รัฐที่กำลังนับคะแนนจึงจะมีเสียงเพียงพอให้สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่สองได้ โดยข้อมูลล่าสุดรายรัฐ เป็นดังนี้
- รัฐ Georgia มีความคืบหน้ามากที่สุดซึ่งนับคะแนนแล้วกว่าร้อยละ 99 โดยที่ประธานาธิบดี Trump ขึ้นนำที่ร้อยละ 49.5 ต่อ 49.3 และมีคะแนนทิ้งห่างกันเพียง 13,000 กว่าคะแนน ขณะที่มีบัตรเลือกตั้งที่รอนับคะแนนอีกประมาณ 47,000 ใบเท่านั้น (ณ 16.00 น. เวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก) ทั้งนี้ ตามระเบียบ เมื่อการนับคะแนนสิ้นสุดและผู้สมัครทั้งสองมีส่วนต่างคะแนนกันไม่เกินร้อยละ 0.5 จะต้องมีการนับคะแนนอีกครั้งหนึ่งหากผู้ที่แพ้ร้องขอ
- รัฐ North Carolina ประธานาธิบดี Trump ก็มีคะแนนขึ้นนำเช่นกัน ที่ร้อยละ 50.1 ต่อ 48.7 หรือคิดเป็น 77,000 คะแนน แต่ว่าความคืบหน้าของการนับคะแนนอยู่ที่ร้อยละ 94 โดยตามสถิติการเลือกตั้ง 20 ปีที่ผ่านมา Republican ชนะในรัฐ North Carolina มาโดยตลอด ยกเว้นเพียงในการเลือกตั้งปี 2008 (Obama vs McCain)
- รัฐ Pennsylvania ซึ่งมีการประกาศล่าสุด ณ เวลา 15.15 น. เวลาท้องถิ่นนิวยอร์กนั้น ประธานาธิบดี Trump ก็มีคะแนนขึ้นนำเช่นกัน และทิ้งห่างนาย Biden ที่ร้อยละ 50.13 ต่อ 48.73 หรือกว่า 90,000 คะแนน แต่จำนวนบัตรเลือกตั้งที่ยังไม่ได้นับคะแนนยังมีมากกว่าล้านใบ อนึ่ง ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 Republican พลิกมาชนะในรัฐ Pennsylvania หลังจากที่ Democrat ชนะในรัฐนี้มาตลาดตั้งแต่ปี 1992 (Bill Clinton vs. Bush)
- รัฐ Nevada การนับคะแนนเป็นไปอย่างล่าช้าและรายงานผลอย่างเป็นทางการแค่วันละครั้งเท่านั้น โดยความคืบหน้าอยู่ที่ร้อยละ 76 และจะไม่มีการรายงานผลเพิ่มเติมจนกว่าเช้าของวันศุกร์ โดยนาย Biden จะมีคะแนนขึ้นนำที่ร้อยละ 49.4 ต่อ 48.5 ที่ส่วนต่างคะแนนที่หนึ่งหมื่นกว่าเสียง แต่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากวานนี้ โดยที่คาดว่ามีจำนวนบัตรลงคะแนนกว่าหมื่นใบที่ยังรอนับคะแนนอยู่ อย่างไรก็ดี ยังยากที่จะคาดเดาผลในขณะนี้ เนื่องจากตามกฎหมายการเลือกตั้งในรัฐ Nevada ผู้ลงคะแนนสามารถลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครใดเลยก็ได้ ทำให้ประเมินได้ยากว่าบัตรที่ยังไม่นับคะแนนมีสัดส่วนผู้ที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมากเพียงใด แต่ก็คาดว่าคะแนนของนาย Biden จะทิ้งห่างมากขึ้นในการรายงานตัวเลขในวันศุกร์ เนื่องจากจะมีการรายงานผลเพิ่มเติมจาก Clark County ซึ่งเป็นฐานเสียงของ Biden รวมทั้งจะมีการเริ่มนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ของ Clark County ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ Democrat ชนะในรัฐ Nevada มาต่อเนื่องในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 ครั้งที่ผ่านมาแต่ด้วยส่วนต่างคะแนนที่ลดลง ซึ่งทำให้ทาง Republican ตั้งความหวังว่าจะสามารถพลิกกลับมาชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ อนึ่ง การนับคะแนนในรัฐ Nevada มีกำหนดการว่าจะสามารถสรุปผลอย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 16 พ.ย.
Source: BoTSS
- The ways Joe Biden or Donald Trump would get 270 electoral votes and the White House

คลิก

- ทรัมป์ขู่ฟ้องศาลตรวจสอบทุกรัฐที่ไบเดนคว้าชัย อ้างมีโกงเลือกตั้ง:

 

คลิก

-------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"