สถานการณ์การติดเชื้อในสหรัฐเลวร้ายขึ้น

แนวโน้มการติดเชื้อไวรัสในบางพื้นที่ของสหรัฐฯมีแนวโน้มเลวร้ายมากขึ้น หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. กว่า 14 รัฐได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันแตะรับสูงสุด โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ กว่า 250,000 คน

บางพื้นที่อย่าง Texas เริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนว่ามีการระบาดภายในชุมชนเพิ่มขึ้นจนทำให้แนวโน้มสถานการณ์แพร่ระบาดจะเลวร้ายยิ่งขึ้น

วานนี้ รัฐ Texas และ Florida ได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมทะลุระดับ 200,000 ราย ทำให้กำลังการรักษาของโรงพยาบาลในบางพื้นที่ของรัฐ Texas เข้าใกล้ข้อจำกัดมากขึ้นทุกวัน จนทางการต้องเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด และรักษาระยะห่าง พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนไม่เดินทางออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น

ทางด้านรัฐ Mississippi ก็พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีรายงานข่าวว่าประธานสภาผู้แทนของรัฐก็ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกัน ทางด้านนครนิวยอร์กได้เดินหน้าสู่แผนการเปิดเมืองระยะที่ 3 แต่อนุญาตให้ธุรกิจเปิดให้บริการได้ลดลงกว่าแผนเดิม โดยในระยะที่ 3 จะอนุญาตให้ร้านนวด สปา รวมถึงสถานที่สำหรับสันทนาการและออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสนามเทนนิส บาสเกตบอล วอลเลย์บอล รวมถึงชายหาดเปิดให้บริการได้ อย่างไรก็ตาม ได้ชะลอการอนุญาตให้รับประทานอาหารภายในร้านออกไปก่อน โดยนาย Bill de Blasio นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กคาดว่าการเปิดระยะที่ 3 นี้จะช่วยให้คนกว่า 50,000 คนกลับมาทำงานได้

ขณะเดียวกันรัฐบาลกลางได้ให้เจ้าหน้าที่บางส่วนกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานแล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาบางพื้นที่ในสหรัฐฯจะประสบกับการระบาดอีกระลอกหนึ่ง แต่ทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่บางส่วนกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดต่ำอย่างในกรุงวอชิงตัน ดีซี อาทิ Energy Department ได้ให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานใหญ่กลับเข้าไปทำงานประมาณร้อยละ 20 หรือประมาณ 600 คน Interior Department ได้ออกแถลงการณ์ว่าจะให้เจ้าหน้าที่กลับเข้ามาทำงานประมาณวันละ 1,000 คน รวมทั้ง Defense Department ได้ออกกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กว่าร้อยละ 80 กลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน ทำให้ในอาคาร Pentagon จะมีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 18,000 คน

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของรัฐบาลกลางในการให้พนักงานกลับมาทำงานในพื้นที่สำนักงานขัดแย้งกับแนวคิดของผู้ว่าการรัฐ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขหลายท่าน เช่น นาย Larry Hogan ผู้ว่าการรัฐ Maryland และนาย Ralph Northam ผู้ว่าการรัฐ Virgina ได้ออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลกลางสนับสนุนการทำงานจากบ้านให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขหลายท่านได้ออกมาแสดงความเห็นว่าควรกำหนดสัดส่วนพนักงานที่กลับเข้าทำงานในสำนักงานไว้ไม่เกินร้อยละ 25 เพื่อไม่ให้การดำเนินการควบคุมโรคระบาดที่ดำเนินมาสูญเปล่า

ทางด้านบริษัทเอกชนส่วนมากวางแผนที่จะปิดพื้นที่สำนักงานต่อเนื่องไปจนถึงวันแรงงานแห่งชาติ (7 กันยายน 2563)

นอกจากนี้โรงพยาบาลนับเป็นแหล่งระบาดของ Covid-19 ที่สำคัญในสหรัฐฯ และบางพื้นที่ในสหรัฐฯ เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากาก N95 อีกครั้ง จากสถิติผู้ติดเชื้อพบว่าระหว่างวันที่ 14 พ.ค. – 21 มิ.ย. มีผู้ป่วย Covid-19 ที่รับเชื้อจากโรงพยาบาลรวมกว่า 5100 คน อย่างไรก็ตาม ทาง Centers for Disease Control and Prevention ประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงน่าจะสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากจำนวนดังกล่าวยังไม่รวบรวมบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่าโรงพยาบาลหลายแห่งได้พยายามควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสภายในอาคารด้วยหลายมาตรการ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ในโรงพยาบาลหลายแห่งที่ไม่เพียงพอต่อการแยกผู้ป่วยจึงต้องทำการปรับพื้นที่ชั่วคราว ซึ่งแพทย์และบุคลาการทางด้านสาธารณสุขหลายท่านต่างคิดว่าแนวทางดังกล่าวยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ป้องกันส่วนตัว (personal protective equipment) ไปก่อน จนทำให้โรงพยาบาลในบางพื้นที่เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากาก N95 อีกครั้ง

Source: BoTSS

- Coronavirus hospitalizations grow in 23 states as Texas

คลิก

-------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"