"รัฐประหารโบลิเวีย​ : เพื่อล้มจีนทำเหมืองลิเธียม​ และปล้นทองคำ"

... ก่อนการรัฐประหารในโบลิเวีย​เมื่อ​10 พฤศจิกายน​2019​ ที่ผ่านมานั้น​ โบลิเวีย​มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย... เมื่อต้นปี​2019​ นี้, "โบลิเวียและจีน" ได้เริ่มเจรจากันในเรื่องการลงทุนร่วมเหมืองลิเธียมในโบลิเวีย​ ที่จีนต้องการเอาไปทำแบตเตอรี​่​ในทั้งสมาร์ทโฟน​ คอมพิวเตอร์​

เก็บพลังงานสะอาดเช่นแผ่นโซล่าร์เซลล์​ และรถยนต์​ไฟฟ้า

... ฝ่ายข้อมูลด้านธรณีวิทยาแห่งหนึ่งของเยอรมันเคยบอกว่า ในภาคการผลิตรถยนต์​ไฟฟ้า​นั้น​ ทำให้มีความต้องการแร่​ "ลิเธียม" สูงมากขึ้นร้อยลง​33​ ในแต่ละปีจนถึงปี​2025,​ แต่ถ้ารวมทุกชนิดที่กล่าวมาข้างต้น​ world economic forum บอกว่า​จะมีความต้องการลิเธียมเพิ่มขึ้น​เป็น​ 6 เท่าในปี​ 2030​ ( เช่นถ้าปี2019​ นี้โลกต้องการลิเธียม​ 100 ตันต่อปี​ ในปี​ 2030​ โลกจะต้องการ​ 600 ล้านตันต่อปี​)​

... และ​ "โบลิเวีย" คือประเทศที่มีปริมาณสำรองของ​ "ลิเธียม" มากที่สุดในโลก

... และบริษัทจากอเมริกาเคยทาบทามขอมาสัมปทานด้วยค่าตอบแทน​ร้อยละ​10 ของกำไรทำให้​โบลิเวียไม่สนใจและทำเองในรูปของรัฐวิสาหกิจของรัฐเพื่อจะให้ได้รายได้กลับมาหาประเทศและประชาชนโบลิเวียมากที่สุด

... และในต้นเดือนพฤศจิกายน​2019,​ ก่อนการรัฐประหารไม่กี่วัน​ รัฐบาลของโมราเลซ ก็เพิ่งยกเลิกสัญญา​การทำเหมืองลิเธียมกับบริษัทจาก​ "เยอรมัน" ที่ชื่อ​ ACISA ซึ่งบริษัทนี้เองที่รับจ้างทำแบตเตอรี่​ให้กับ​ "เทสล่า" บริษัทยักษ์​ใหญ่​ด้านรถยนต์​ไฟฟ้า​ของอีลอน​ มัสท์ ชาวอเมริกา

... ด้าน​ "จีน" เองนั้น​มีแผน​ "ผลิตในจีน" หรือ​ Made in China ในปี​ 2025 ที่ต้องการผลิตสินค้าแบรนด์ของตัวเองโดยเฉพาะสินค้าที่มีนวัตกรรมสูง​ เช่น​สมาร์ทโฟน​ ระบบแบตเตอรี่​เก็บไฟฟ้า​จาก​พลังงาน​สะอาด​แผ่นโซล่าเซลล์​ คอมพิวเตอร์​ เอไอ​และขายรถยนต์​ไฟฟ้า​ให้ทั่วโลก​ ในปี​ 2018​ ที่ผ่านมา​จีนผลิตรถยนต์​ไฟฟ้า​ได้​ ประมาณ​1 ล้านคัน​ต่อปีและจะเพิ่มเป็นปริมาณ​ 3 ล้านคันในปี​ 2025​

... และ​ "จีน" คือผู้บริโภคลิเธียมตลาดใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้​ ปี​2019

... เมื่อผู้ต้องการบริโภคสูงสุดและผู้ผลิตสูงสุดมาพบกัน​ มีผลประโยชน์ที่ลงตัว​ ทุกอย่างจึงวินวิน

... โดยโบลิเวียได้ผลประโยชน์จากการทำเหมืองร้อยละ​51,​ส่วนร้อยละ​49 เป็นของจีน​ โดยมีมูลค่าการลงทุน​เบื้องต้น​ 2.3 พันล้าน​ดอลลาร์​ในข้อมูลเบื้องต้น

... การเลือกตั้ง​ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม​ 2019,​ โมราเลส​ชนะขาดฝ่ายตรงข้าม​กว่า​ร้อยละ​10 ที่มากกว่าการเลือกตั้งใดๆในอเมริกาในรอบ​35​ ปี​, แปลว่าประชาชนส่วนใหญ่นิยมในตัวเขา​, ประชากรชาวเผ่า​ร้อยละ​70​ถึง​80​ บอกว่านับตั้งแต่ได้เอกราชจากสเปนมา​200​กว่าปี​ โมราเลส​เป็นผู้นำคนแรกที่นำความอยู่ดีกินดี​ ( แบบยั่งยืนจริงใจ​)​ มาสู่ชาวเผ่า

... บางสำนักข่าวบอกว่าที่เขาต้องลี้ภัยไปเม็กซิโกบอกว่า​ถ้าเขาต่อสู้จะเกิดการนองเลือดในประเทศ​ และครอบครัวเขาก็อาจจะถูกฆ่าตาย​ เขาจึงต้องรักษาชีวิตประชาชนและคนรอบข้างไว้ก่อน

... มีการเล่าลือภายในประเทศว่าซีไอเอเข้ามาสนับสนุนการรัฐประหารในโบลิเวียในครั้งนี้​

... ในหลังการปฏิวัติแค่วันเดียวมีการ​ "ปล้นทองคำ" จากธนาคารชาติของโบลิเวียไปต่างประเทศ​ ไม่รู้ว่าที่ไหน​ สันนิษฐาน​ว่าเป็น​ "อเมริกา" โดยนาง​ Jeanine Anez ผู้นำกำมะลอคนใหม่อ้างว่าเพื่อเก็บเงินไว้ซื้ออาวุธเพื่อมาฆ่าผู้ประท้วงขาวบ้านชาวเผ่าที่กำลังเรียกร้องต่อต้านนางที่รัฐประหารโมราเลส​ผู้นำเพื่อคนจนอย่างแท้จริงของพวกเขา

( ... ตอนนี้ประชาชนชาวเผ่า​ผู้ประท้วงเอาโมราเลสคืนมาได้ถูกนางอเนซฟาสซิสท์ หุ่นเชิดของตะวันตกฆ่าไปแล้วกว่า​ 25​ศพ​ แต่อเมริกากับอังกฤษ​ ไม่ออกมาตำหนิเหมือนที่ทำกับฮ่องกง​ ​)​

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 

Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"