แคร์รี่ แลมอาจจะเป็นผู้นำฮ่องกงคนสุดท้ายก็ได้ เพราะอาจจะใกล้เวลาปิดเกาะฮ่องกงแล้ว เพื่อปักกวาดบ้านเรือนให้สะอาดใหม่ ที่ผ่านมา แคร์รี่ แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารของฮ่องกง (Chief Executive)เป็นบุคคลที่น่าเห็นใจมากที่สุด
เธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เป็นผู้ที่มีความอดกลั้นสูง ต้องทนต่อแรงกดดัน แรงเสียดสีที่เข้ามาทุกทิศทางจากม็อบฮ่องกงที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนถึงขั้นเผาบ้านเผาเมืองแล้ว แต่ในขณะเดียวกันปักกิ่งยังคงเอาไม้ค้ำยันหลังเธอเอาไว้ ไม่ให้ลาออกจากตำแหน่ง
แลมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนร่วมงานว่าให้สู้ต่อไป แบบผ่อนหนักผ่อนเบา อะไรรอมชอมได้ให้ทำ เพราะว่าตี๋หมวยฮ่องกงที่เผาบ้านเผาเมืองยังไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกมาก เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองของผู้ไม่หวังดีต่อฮ่องกงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยสาหัสเพียงใด เธอยังยืนหยัดเพื่อนำทางให้ฮ่องกงกลับคืนสู่ความสงบสุขให้ได้
แต่ความหวังของแลมริบหรี่ลงทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความขัดแย้งทางสังคมสูงขึ้นระหว่างผู้ประท้วงไม่เอาปักกิ่ง กับผู้ที่ต้องการความสงบ มีการทำร้ายร่างกายกันอย่างรุนแรง ที่สำคัญมีการเผาสาขาธนาคาร (Bank of China, China Construction Bank)ในฮ่องกง รวมท้ังการหรือทำร้ายธุรกิจที่เป็นของจีน แต่กลับมีการยกย่องชาติตะวันตก โบกธงฝรั่งเรียกร้องยูเอ็นให้เข้ามาช่วย
แลมทำทุกอย่างเพื่อเลี่ยงการประกาศกฎหมายภาวะฉุกเฉินที่จะให้อำนาจเจ้าหน้าที่จัดการกับม็อบอย่างเด็ดขนาด ภาวะฉุกเฉินจะรวมท้ังการประกาศเคอร์ฟิว การจำกัดพื้นที่ให้คนฮ่องกงเข้าถึง เธอจึงทำได้เพียงออกกฎหมายพิเศษห้ามผู้ประท้วงสวมใส่หน้ากาก เพื่อลบเลี่ยงการจับภาพของกล้องซีซีทีวี หรือไม่ให้เจ้าหน้าที่จำใบหน้าได้ แต่ผู้ประท้วงยังคงฝ่าฝืนละเมิดกฎหมายนี้ ก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่องสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจของฮ่องกงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับค้าปลีก โรงแรม การท่องเที่ยวและร้านอาหารที่ยอดขายตกไป30-40%ในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา
ถ้าเป็นประเทศอื่น ป่านนี้คงต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือเคอร์ฟิวแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลต้องกวาดล้างผู้ประท้วงให้ราบคาบ แต่นี่เป็นฮ่องกง เขตเศรษฐกิจเสรีที่ผลประโยชน์ของโลกตะวันตกยังคงมีมาก
การทีทางการฮ่องกงจะทำอะไรรุนแรงเด็ดขาดกับผู้ประท้วงไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากว่ายังคงมีความเกรงอกเกรงใจกันอยู่ นอกจากนี้สหรัฐและประเทศตะวันตกเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด และให้การสนุบสนุนผู้ประท้วงปักกิ่งอย่างออกหน้าออกตา
ตั้มได้ส่งคำเตือนว่า ถ้าหากว่าปักกิ่งใช้มาตรการรุนแรงในการจัดการม็อบฮ่องกง มันจะส่งผลกระทบถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในเวลานี้ ตั้มจะถือโอกาสสั่งให้บริษัทอเมริกัน รวมท้ังกองทุนต่างๆถอนการลงทุนจากจีน เพื่อให้เศรษฐกิจจีนมีปัญหา
จีนใช้ความอดทน สี จิ้นผิงนั่งดีดพิณบนกำแพงเมืองจีนมองดูคนฮ่องกงทำร้ายกันเอง ถึงขนาดเผาบ้านตัวเองมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ก่อนหน้านี้ บางคนมองว่าสีอาจจะสั่งทหารลุยม็อบฮ่องกงก่อนวันที่ 1ตุลา เพื่อไม่ให้ม็อบฮ่องกงสร้างความรำคาญใจให้กับงานฉลองวันชาติจีน แต่วันชาติจีนผ่านไป ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆจากปักกิ่ง ยกเว้นทหารจีนที่ยืนอยู่บนป้อมชูป้ายให้ผู้ประท้วงฮ่องกงอย่าได้ออกอาการซ่าส์มากเกินไป เพราะว่ามีการใช้แสงเลเซอร์ยิงเข้าป้อมยามทหารจีนที่ประจำการดูแลฮ่องกง
ถ้าต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน คำถามคือตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้หรือไม่ มีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ ได้รับการฝึกมาอย่างดีพอที่จะสู้กับม็อบตะลุมบอนหรือไม่ เพราะว่าม็อบอาจจะมีอาวุธร้ายที่มีอานุภาพสูงก็ได้ เหมือนบ้านเราที่ได้เห็นM79 แค่ตำรวจนายหนึ่งใช้ปืนยิงผู้ประท้วงอายุ18ปีคนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสยังถูกประนาม ทำให้ขวัญเสียกันทั้งเกาะ ถ้าต้องใช้กำลังที่รุนแรงขึ้นจะกล้าทำหรือไม่ หรือจะมีผลอะไรตามมา เพราะว่าอย่างน้อยก็เป็นคนฮ่องกงด้วยกัน
นอกจากจะเลี่ยงประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ยังเลี่ยงที่จะขอความช่วยเหลือจากปักกิ่งให้ส่งทหารเข้าไปจัดการม็อบ โดยพยายามซื้อเวลา ขอประนีประนอมจนถึงที่สุด โดยเธอยืนยันว่าตำรวจฮ่องกงมีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการกับม็อบ
แต่ดูเหมือนว่า ม็อบฮ่องกงสู้ตายเพื่อชัยชนะ ชัยชนะนี้คือการแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกเพื่อปลดแอกให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากปักกิ่ง หรืออย่างน้อยถ้าแพ้ สามารถเข้าสถานกงสุลของชาติตะวันตกเพื่อขอลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศได้
ปักกิ่งนอกจากจะเผชิญศึกฮ่องกงแล้ว ยังเจอศึกซินเกียงอีก เพราะว่ากระทรวงพานิชย์สหรัฐเตรียมแบล็อคลิสท์28บริษัท หรือหน่วยงานจีนข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ซินเกียง หรือมณฑลทางตะวันตกของจีน นี่ยังไม่พูดศึกทะเลจีนใต้ที่เดือนกันจีนมีการใช้เรือรบ5ลำปิดล้อมเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัล โรแกนของสหรัฐในทะเลจีนใต้ หรือศึกไต้หวันที่ทางสหรัฐประเคนอาวุธให้ไต้หวันเต็มที่
สีได้ประกาศก้องในวันฉลองวันชาติที่ผ่านมาว่า ไม่มีใสามารถยับยั้งคนจีนและประเทศจีนให้เดินหน้าไปได้ ทหารจีนจะปกป้องอธิปไตยจีน การรวมชาติ ท้ังฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันเป็นจุดหมายที่สำคัญ พร้อมกับโชว์ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค ขีปนาวุธยิงข้ามทวีป และโดรนพิฆาตรุ่นล่าสุด จีนพร้อมรับมือการปิดล้อมของสหรัฐอย่างเต็มกำลัง
ด้วยเหตุนี้การจัดการกับม็อบฮ่องกงของจีนจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะว่ามันมาถึงจุดวิกฤติที่เกินเยียวยาแล้ว
เมื่อแลมร้องขอให้ปักกิ่งส่งทหารเข้ามาช่วยดูแลรักษาขืแปของบ้านเมืองภายใต้กฎหมายฉุกเฉิน ทหารจีนจะปิดเกาะฮ่องกง ไม่ให้ใครเข้าใครออก แม้จะมดยังเล็ดลอดเข้ามาหรือออกไปไม่ได้
เมื่อถึงจุดนั้น จีนคงจะยกเลิกความเป็นเขตปกครองพิเศษของฮ่องกงไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด ฮ่องกง มาเก๊าจะกลับคืนมาเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกงจะหมดสภาพทันที
พวกที่เป็นหัวโจกคงจะถูกยิงเป้าตามธรรมเนียมปฏิบัติของจีน เพราะว่าการก่อการกบฎถือว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุด ท่านเปาปุ้นจิ้นจะมีคำสั่งประหารชีวิตด้วยเครื่องตัดคอหัวหมาอย่างเดียว
8/10/2019
Cr.Thanong Fanclub
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you