การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นสิ่งที่เข้าใจยากสำหรับบางคน ...ในโลกของตราสารทุน นักลงทุนเพลิดเพลินไปกับ tickers ราคาหุ้นรายวันในจอมือถือวันแล้ววันเล่า ตลาดก็ขยับขึ้นลงเป็นรายนาที ...ข้อมูลการลงทุนที่ปรากฏในมือถือเหล่านี้สอนให้เรา
กลายเป็นคนความจำสั้น..ช่วงของความสนใจและความอดทนลดทอนสั้นลงทุกที
แต่ในโลกของทองคำ (และซิลเวอร์) นักลงทุนจะซื้อหรือขาย..ตามวงจรราคาของช่วงปีที่ผ่านๆมา ที่มักเกิดขึ้นซ้ำๆ (oftentimes) ในรอบสิบๆปี ...นี่เป็นเรื่องที่ตรงข้ามสุดๆกับการซื้อขายหุ้นเลย
นั่นเป็นเหตุผลที่ทองคำมักจะได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์แบบ ignorant มาตลอด .....เรียกว่าเป็นของสะสมโบราณ (barbaric relic) ที่ราคาไม่เคลื่อนไหวในแบบที่เทรดเดอร์ต้องการเอาซะเลย ....พวกนักลงทุนพากันละเลยมันพร้อมกับหัวเราะเยาะ ...กระทั่งราคามันระเบิด
ไม่แปลกเลยที่นักลงทุนหุ้นทั่วๆไปไม่มีการป้องกันตัวที่ดีตอนที่วิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น ...ในขณะที่นักลงทุนในทองคำมองเห็นวิกฤติมาก่อนล่วงหน้าหลายๆเดือน
สถานการณ์ทองคำมักเป็นตัวบอกเหตุถึงสิ่งที่กำลังจะมาโดยอิงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ...แต่สถานการณ์หุ้นมักบอกแต่การขาดความระมัดระวัง ที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์เอาเลย
มีหลักฐานปรากฏมากมายของการปั่นราคาในตลาดฟิวเจอร์ทองคำและซิลเวอร์ ให้ราคาต่ำอยู่ตลอดเวลา จากธนาคารยักษ์เช่น JP Morgan ...นักลงทุนทองคำก็รู้เรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว ....อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ...ตลาดทองคำ physical จะเป็นฝ่ายน่าเชื่อถือมากกว่าการปั่นในตลาดฟิวเจอร์ และราคาของ physical ก็จะขยับขึ้น ...นั่นเป็นสิ่งที่เคยเกิดเมื่อก่อนจะแครชในปี 2008 และมาเกิดขึ้นอีกในตอนนี้
ราคาของทองคำและซิลเวอร์มีการขึ้นอย่างน่าตื่นเต้นในสองเดือนที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่เป็นคุณสมบัติของทองคำ.. นั่นคือการปกป้องความเสี่ยง (hedging) ในเวลาที่เศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพ ...แต่ไม่มีการพูดถึงในสื่อ mainstrean หรือกูรูหุ้นทั่วๆไป..เมื่อตอนที่ทองคำราคาพุ่งขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
สื่อเศรษฐกิจและสื่อทางเลือกหลายสำนักคาดว่าราคาทองคำจะร่วงอย่างแรงในเดือนกรกฎาคม เพราะพวกเขามั่นใจว่าประธาน Fed ..Jerome Powell คงจะลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่และเพิ่มมาตรการกระตุ้นในเร็วๆนี้ แต่มันไม่เกิดขึ้นดังคาด ....ตรงข้าม นักลงทุนกลับช้อคที่ได้ยิน Powell ปฏิเสธที่จะทำ QE มีเพียงการลดดอกเบี้ยแค่ 0.25% โดยไม่รับประกันว่าจะมีการลดอีก
เดือนสิงหาคมก็ยังมีการกล่าวซ้ำอีกในการประชุมประจำปี Fed ที่ Jackson Hole ว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเพิ่มการกระตุ้น..และการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ก็ไม่น่าเป็นไปได้
ปัจจุบัน Fed ก็พยายามรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้เกาะติดกับอัตราเงินเฟ้อ ..และยังมีการลดทรัพย์สินใน balance sheet ถึงแม้จะบอกว่าคงจะยุติในไม่ช้า ..อัตราดอกเบี้ย funds rate ขณะนี้ก็สูงที่สุดแล้วในกลุ่มธนาคารกลางของประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ...สภาพคล่องของเงินดอลล่าร์ทั่วโลกขณะนี้ก็เหือดแห้ง จนนักวิเคราะห์กระแสหลักทั้งหลายเรียกร้องให้ Fed เพิ่มมาตรการการอัดฉีดกระตุ้นอีก
Fed ยังคงให้ข่าวหลอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแรงและกำลังฟื้นตัว ถึงแม้ yield curve ในตลาดอยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมานับสิบปีแล้ว ..ยอดขายบ้านและรถยนตร์ตกอย่างแรง ..ห้างค้าปลีกก็น่าจะมีการปิดตัวอีกมากกว่า 12,000 outlets ในปีนี้ ..ยอดขนส่งทางเรือก็แทบจะหยุดสนิท ..ดัชนีการผลิต PMI ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 ..... ฯลฯ ...Fed เองก็มีข้อมูลแท้จริงที่รู้ว่าเศรษฐกิจถดถอยกำลังจะสร้างปัญหาใหญ่แน่ๆ ...แต่ก็ยังคงยืนยันว่า ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
พวกเขาสร้างหนี้มหาศาลจนกลายเป็นฟองสบู่ และใช้นโยบาย tightening เพื่อที่จะทำให้ฟองสบู่แตกออก พวกเขาปิดบังจนกระทั่งการแครชใกล้จะทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบ แล้วจึงจะอ้างว่าไม่มีใครรู้มาก่อน
ผมเคยทำนายไว้หลายปีแล้วว่า Fed พยายามทำให้สภาพคล่องลดลงจนกระทั่งเงื่อนไขการแครชจะเริ่มเห็นได้ชัด จึงจะเริ่มเปิดเผยต่อสาธารณชน ดังจะเห็นได้จากการพูดถึงเศรษฐกิจถดถอยในสื่อกระแสหลักทั่วไป ..แล้วตลาดหุ้นจะไปได้อีกไกลแค่ไหน....จะมีเงินทุนที่ไหนมาเข้าตลาดในขณะที่ Fed กำลังลด cash flow
ในขณะที่ Fed กำลังมีอาการผิดหวัง และปฏิเสธนักลงทุนเรื่องการทำ QE ...ดอลล่าร์อินเด็กซ์กลับสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็คิดว่าราคาทองคำคงจะร่วงหนัก แต่มันกลับเป็นตรงข้าม
ผมเคยทำนายไว้ในบทความ 'Gold Will Rise Even If The Fed Doesn’t Cut Interest Rates’ ว่ามันจะเกิดเหมือนกับเมื่อปี 2006-2007 ..ดอลล่าร์อินเด็กซ์สูงขึ้น ขณะที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวใน timeframe เดียวกันเลย ....นี่เป็นเพราะดอลล่าร์อินเด็กซ์ไม่ได้มีอิทธิพลต่อราคาทองเสมอไป บางครั้งทองคำก็ไม่เกาะติดกับดอลล่าร์ แต่ราคาขึ้นตามสภาวะตลาดมากกว่า ..เมื่อใกล้จะเกิดวิกฤติ จะมีดีมานด์ทองคำมาก ดอลล่าร์กลายเป็นประเด็นรองไปเลย
ผมเชื่อว่าเทรนด์นี้จะยังคงไปต่อ สงครามเทรดวอร์กำลังเข้าเฟสสองที่มีการขึ้นอัตราภาษีจากทั้งสองฝ่าย ...เทรดวอร์จะยังไม่จบจนกว่าจะมีการแครชของระบบ เพราะมันคือข้ออ้างชั้นดีที่ Fed จะใช้อ้างตอนที่พวกเขากำลังถล่ม "Everything Bubble" จนพังคามือ
แต่การตัดสินใจของ Fed จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับราคาทองคำที่เราจะได้เห็นในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้รีบสรุปว่า Fed คงจะรีบทำ QE ...พวกเขาอยากให้ราคาทองคำขึ้นนั่นเอง แต่คนเหล่านี้ก็ควรจะรู้ไว้ด้วยว่า ราคาทองคำจะขึ้นก็ด้วยมูลค่าของตัวมันเอง ถึงแม้ Fed จะไม่มีมาตรการการทำ QE ก็ตาม
มาถึงตอนนี้ ผมก็สามารถพยากรณ์ได้ว่าราคาทองคำจะยังคงอยู่ในช่วง uptrend อย่างมั่นคงไปอีกสักเดือนหรือสองเดือน จนถึงตุลาคมหรือพฤศจิกายน ...ตัวเร่ง (catalyst) ตัวต่อไปน่าจะเป็น Brexit ....ซึ่งถ้าสรุปได้ว่าจะ 'No Deal' ก็หวังได้เลยว่าราคาทองคำจะพุ่งเป็นจรวด และผมไม่เชื่อด้วยว่า จะมีอะไรมาหยุด Brexit ได้
เดือนหน้านี้ก็อาจจะมีการย่อของราคาได้ แต่เป็นเรื่องชั่วคราว ...จีน/สหรัฐอาจมีการเจรจากันจนมี deal อะไรสักอย่างประกาศออกมา แต่มันก็แค่ตลกสลับฉาก ไม่มีสาระอะไรที่จริงจังจับต้องได้เลย มันก็อาจทำให้ราคาทองตกลงมาหน่อย
หรืออาจมีข่าวการลดค่าเงินจากหลายๆสกุล แต่คงยังไม่ใช่เร็วๆนี้ ...ที่จะทำให้ดอลล่าร์อินเด็กซ์สูงขึ้นจนไปทำให้ราคาทองลดลงได้
การประชุมของ Fed ในเดือนกันยายนมีการคาดกันว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่จากหลักฐานบางอย่างทำให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ว่า Fed จะไม่ลดดอกเบี้ยมากนักหรืออาจไม่ลดเลย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ราคาทองคำก็จะพุ่งขึ้นสูงอีกครั้งในเดือนนี้หรือเดือนตุลาคม
ถ้า Fed ลดดอกเบี้ยมาก ก็คงจะมีทุนไหลออกจากทองคำไปเข้าตลาดหุ้นชั่วระยะสั้นๆ ...แต่นั่นมันจะเป็นการเปิดทางให้เศรษฐกิจถดถอยเร็วขึ้น..จนทองคำจะเป็นทางเลือกที่จะมาปกป้องความมั่งคั่งของนักลงทุน
ในความเห็นผมตอนนี้ ...timeline อีกสองเดือนข้างหน้า คือมันก็ยังอยู่ในเทรนด์ที่ยังเป็นขาขึ้นอยู่ ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นลบ Fed ก็คงยังไม่แทรกแซง ...Brexit เองก็ยังมีความผันผวนอยู่ทุกวัน แต่แน่นอนว่ามันต้องถูกยกเป็นสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจในอียู เหมือนกับที่เทรดวอร์จะถูกยกเป็นเหตุของปัญหาในสหรัฐนั่นแหละ
ทั้งหมดนี้คือเรื่องใหญ่ที่จะส่งให้ราคาทองสูงเป็นประวัติการณ์ เหมือนทองตอนวิกฤติปี 2008 ซึ่งผมคิดว่าคราวนี้มันจะแรงกว่าอีเว้นท์ของปีนั้นแน่ๆ
Saturday, 07 September 2019.... Brandon Smith
Cr.Sayan Rujiramora
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you