สหรัฐสูญเสียตำแหน่งคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนให้ภูมิภาคอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 หลังสงครามการค้าสองชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ยืดเยื้อ โดยร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 และอียู ไต่ขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 แทน ขณะ ยอดส่งออกของสหรัฐไปจีนทรุด 30%
เว็บไซต์นิกเคอิ รายงานว่า สหรัฐ กำลังสูญเสียตำแหน่งคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีน ให้แก่ภูมิภาคอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปี2562 หลังจากสงครามการค้าสองชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกยืดเยื้อยาวนานและไม่มีสัญญาณว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด โดยสหรัฐร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 และอียูไต่ ขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ1 แทน ขณะที่ยอดการ ส่งออกสินค้าของสหรัฐไปจีนทรุดหนักถึง 30% เนื่องจากบรรดาบริษัทจีนมองหา แหล่งสินค้าอื่นแทนสหรัฐ
สำนักงานศุลกากรจีน ระบุว่า ปริมาณการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ปรับตัวลง 14% เหลือแค่ 258.3 พันล้าน ดอลลาร์ โดยในช่วงที่สหรัฐและจีน ยังคงทำสงครามการค้าระหว่างกัน การส่งออกของสหรัฐชะลอตัวลง อย่างมาก และมูลค่าการนำเข้าสินค้า จากสหรัฐในเดือนมิ.ย.ลดลง 31.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ การส่งออกไปยังสหรัฐลดลง 7.8% สู่ระดับ 3.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ จีนมีตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ กรมศุลกากรของจีนยังเปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของจีนไปยังตลาดโลกลดลง 1.3% ใน เดือนมิ.ย. สู่ระดับ 2.128 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 7.3% สู่ระดับ 1.619 แสนล้านดอลลาร์
"ปัจจัยภายนอกที่เป็นผลพวงจาก การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งผลต่อการนำเข้าและ ส่งออกของจีน"นายหลี่ กุ้ยเหวิน โฆษกสำนักงานกรมศุลกากรจีน กล่าว
ซ้ำรอยยอดส่งออก-นำเข้าเดือนก.พ.
เมื่อเดือนก.พ.ปริมาณการส่งออก และนำเข้าของจีน ปรับตัวลงกว่า ที่คาดไว้ เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ที่ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ที่กำลังมีข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ
สำนักงานศุลกากรจีน รายงานว่า การส่งออกไปต่างประเทศดิ่งลง 20.7% เมื่อเทียบรายปี และนำเข้าลดลง 5.2% แย่กว่าผลสุ่มสำรวจของบลูมเบิร์ก ที่คาดการณ์ว่า จะลดลง 5% และ 0.6% ตามลำดับ
อาเซียนตลาดทางเลือกสำหรับจีน
จีน เริ่มมองหาตลาดหลักอื่นๆ เข้ามาอุดช่องโหว่ที่เป็นผลพวงของ การทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ปริมาณการค้ากับสหภาพยุโรป(อียู)ของจีนแซงหน้าสหรัฐ โดยอียูก้าวขึ้นมาเป็นคู่ค้าชั้นนำในปี 2547 เพิ่มขึ้น 5% ต่อปี เป็น 337.9 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนการค้ากับกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ขยายตัว 4% เป็น 291.8 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้าสหรัฐ และหากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงดำเนินต่อไป
ขณะที่เวียดนาม ซึ่งเป็นสมาชิกใน กลุ่มอาเซียน มียอดส่งออกสินค้าไปจีน เพิ่มขึ้น 14% ประกอบกับบรรดานักธุรกิจ จีนต่างพากันย้ายฐานการผลิตเข้าไป ตั้งฐานการผลิตในเวียดนามเพิ่มขึ้นหรือที่มีฐานการผลิตในเวียดนามอยู่แล้ว ก็เพิ่มการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ในเวียดนาม
การตอบโต้กันด้วยมาตรการภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐและจีน ก่อผลดีต่อปริมาณการค้าในอาเซียนโดยตรง ยกตัวอย่างสหรัฐประกาศ เก็บภาษีเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากจีนในอัตรา 10% เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเก็บเพิ่มในอัตรา 25% ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ของจีนที่นำเข้าไปสหรัฐปรับตัวลง 11% ทำให้มูลค่าการนำเข้าช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.เหลือเพียง 3.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเฟอร์นิเจอร์จากอาเซียนไปสหรัฐเพิ่มขึ้น30% เป็น 1พันล้านดอลลาร์
เช่นเดียวกับ การส่งออกสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์ ที่รัฐบาลวอชิงตันเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% เมื่อปีที่แล้ว ร่วงลง26% ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.แต่การส่งออกไปอาเซียนกลับเพิ่มขึ้น37% ส่วนผลิตภัณฑ์ของเล่นจากจีนที่แม้ ขณะนี้ยังไม่ถูกเก็บภาษีในอัตรา ที่สูงจากสหรัฐ แต่ผลิตภัณฑ์ของเล่น จีนที่มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ส่งออกไปอาเซียนในรอบ 5 เดือนเพิ่มขึ้น 52%
แนะฟังคืบหน้าการค้าจาก"ทรัมป์"
นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า รายงานของสื่อเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ โดยเขาแนะนำให้ ฟังสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์เท่านั้น
"คำแนะนำของผมสำหรับนักลงทุนก็คือให้มีความอดทนต่อกระบวนการเจรจา และอย่าเชื่อสิ่งที่อ่านในสื่อของสหรัฐหรือจีนเกี่ยวกับการเจรจาเหล่านี้ นอกจากจะออกมาจากปากของท่านประธานาธิบดี หรือคุณโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐในระหว่างนี้ จะมี"ขยะ"มากมายออกมาจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล และพีเพิลส์ เดลี ซึ่งผมได้เคยอ่านเรื่องที่เขียนเหล่านี้แล้ว ซึ่งสื่อพยายามเต้าข่าวเพื่อกำหนดโฉมหน้าของการเจรจา โดยไม่มีข้อมูลในเชิงลึก"
อย่างไรก็ดี นายนาวาร์โร ไม่ได้ระบุถึงข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรือแสดงหลักฐานในการสนับสนุนคำกล่าวของเขา
คำกล่าวของนายนาร์วาโร มีขึ้น หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เผชิญอุปสรรคบางประการ ซึ่งรวมถึง การที่จีนไม่ได้เพิ่มการสั่งซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ยืนยันเรื่องดังกล่าว ด้วยการทวีตข้อความวานนี้ (12 ก.ค.)ระบุว่า จีนไม่ได้ สั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐตามที่ได้ให้สัญญาไว้
นายนาวาร์โร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ สงครามการค้ากำลังอยู่ในช่วงสงบ โดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้า สหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในไม่ช้า เพื่อเจรจาการค้ากับจีน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
- US overtaken by Southeast Asia as China's No. 2 trade partner :
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you