ผู้เชี่ยวชาญคาดอเมริกาไม่คิดฆ่าหัวเว่ยแค่บีบให้ยอมรับผิดทำธุรกิจกับอิหร่าน

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า หากการห้ามการขายเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาให้กับหัวเว่ยเป็นไปอย่างถาวร รัฐบาลอเมริกาจะทำให้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจีนยักษ์ใหญ่หลุดออกจากธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม การขยายไปถึงบริษัทจีนในวงกว้างดังที่ลือกัน

วอชิงตันจะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก ไม่เพียงแต่กับจีน แต่ยังรวมถึงธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศด้วย เชื่อว่าอาจต่อรองกำหนดให้หัวเว่ยต้องสารภาพความผิดทางอาญา ในข้อกล่าวหาเชื่อมโยงทางธุรกิจกับอิหร่าน เพื่อเป็นเงื่อนไขของการพักคำสั่งแบน

ทอม ฮอลแลนด์ อดีตคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ "เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์" ผู้เชี่ยวชาญกิจการในเอเชียมานานกว่า 25 ปี ระบุว่า ในระยะยาวโลกอาจจะแยกเป็นสองกลุ่มที่เข้ากันไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในอนาคต แต่จะไปถึงวันนั้นหรือ ก็คงไม่

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางการค้าที่เกิดขึ้นนั้นมีด้านดีอยู่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสื่อในแผ่นดินใหญ่เต็มไปด้วยสำนวนชาตินิยมอย่างชัดเจนเกี่ยวกับวิธีที่หัวเว่ยสามารถประสบความสำเร็จได้ แม้จะถูกแบนจากสหรัฐฯ โดยจีนจะพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง ทดแทนเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

อุปกรณ์เครือข่ายและสมาร์ทโฟนของ หัวเว่ย นั้นพึ่งพาส่วนประกอบของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์กึ่งตัวนำและซอฟต์แวร์ ส่วนประกอบเหล่านี้บางส่วนไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ แม้สามารถทำได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์เกาหลีหรือญี่ปุ่นทดแทน แต่โดยทั่วไปก็ยังเป็นการผลิตโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่าซัปพลายเออร์เกาหลีและญี่ปุ่นจะต้องถูกปรับ หากขายอุปกรณ์ให้กับหัวเว่ย จึงเป็นเหตุผลอธิบายว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว ทำไมพานาโซนิคและฮิตาชิหยุดการจัดส่งส่วนประกอบสำคัญๆ ให้กับบริษัทจีน

มีการพูดถึงกันมากเกี่ยวกับความสามารถของหัวเว่ย ในการประคองตัวอยู่รอดจากการควบคุมการส่งออก เนื่องจากเป็นเจ้าของบริษัท HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง กำลังปลดแอกทำให้เป็นจีนอิสระจากการ พึ่งพาชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ของ HiSilicon ก็ยังพึ่งพาการออกแบบจากต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น "ระบบบนชิป" ใช้โปรเซสเซอร์ที่ออกแบบโดย ARM of Cambridge ในสหราชอาณาจักร อันที่จริงแล้ว สมาร์ทโฟนทุกเครื่องในโลกนี้พึ่งพา ARM และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ARM ก็ได้แถลงไม่ร่วมงานกับหัวเว่ย เพราะการออกแบบของตนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ แม้เจ้าหน้าที่จีนอ้างว่า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ไม่มีผลกับธุรกิจ ปักกิ่งกำลังวางแผนที่จะจัดเสบียง "เดินทัพทางไกล" เพื่อพัฒนาการออกแบบชิปเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์ในบ้านของตนเอง

เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งของหัวเว่ย ยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า " จีนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากขึ้นอยู่กับนวัตกรรมในประเทศ" เขากล่าวกับสื่อ แผ่นดินใหญ่ "เพราะจะเสียเวลามากกับนวัตกรรม" ประเด็นของเหริน คือ การสร้างเฟืองขับเคลื่อนใหม่นั้น ไม่ว่าจะมีความพยายามสนับสนุนเงินทุนอย่างฟุ่มเฟือยเพียงใด ก็ยังไม่คุ้มเท่ากับการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศแบบเปิด ใน ทางกลับกัน ประเทศจีนจึงเป็นลูกค้านำเข้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ การ ตัดจีนออกจากธุรกิจนี้ ก็เหมือนสหรัฐฯ ฆ่าตัวเองเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญ จึงมองว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไม่ทำลายหัวเว่ย แต่อาจจะใช้วิธีตัดปีก ด้วยการบังคับใช้การสั่งห้ามการขายเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐอเมริกาบางส่วน ซึ่งก็คงเพียงพอที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับทุกฝ่าย ในประเด็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา

ทอม กล่าวว่า สหรัฐฯ อาจต่อรองกำหนดให้หัวเว่ยต้องสารภาพความผิดทางอาญา ในข้อกล่าวหาเชื่อมโยงทางธุรกิจกับอิหร่าน เพื่อเป็นเงื่อนไขของการพักคำสั่งแบนบริษัทจีน ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทจีนคงไม่พอใจ แต่ก็อาจเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นหัวเว่ย จีน สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น

Source: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา

- China’s wrong, the US can kill off Huawei. But here’s why it won’t

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Studentstone

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"