เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1517 โปรเฟสเซอร์นักทฤษฎีชาวเยอรมันคนหนึ่งได้ส่งข้อเขียนที่แย้งกับสถานะของ Catholic Church ในยุคนั้นต่ออาร์คบิช้อป Albert แห่ง Brandenberg เพื่อพิจารณา
หนังสือของท่านโปรเฟสเซอร์สุภาพและมีความเป็นมืออาชีพ ไม่ได้มีสิ่งที่แสดงถึงการใช้ความรุนแรงเลย
แต่ภายในไม่กี่ปีจากนั้น ท่านโปรเฟสเซอร์ก็ถูกตัดขาดออกจากการเป็นคริสต์ศาสนิกชนจาก Pope ...กลายเป็นคนนอกกฏหมายต้องอยู่แบบหลบซ่อนกับกลุ่มผู้ติดตามของตน
ท่านคือ Martin Luther ..ข้อเขียนของท่าน The 95 Theses (ข้อโต้แย้ง 95 ข้อของอำนาจแห่งพระคุณการุณย์) ...ซึ่งมีส่วนในการปฏิรูปจนเกิดเป็น Protestant Reformation ที่นับเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
การปฏิรูปครั้งนั้นถือเป็นการต่อต้านอำนาจของ Church อย่างกว้างขวางในยุโรป ....แต่การต่อต้านอำนาจของ Church มีมาตั้งแต่ปลายช่วง 1300s มากกว่า 150 ปีก่อนหน้า
แต่นักประวัติศาสตร์มักจะโฟกัสไปที่ช่วงตอนที่เป็นจุดหักเหของเหตุการณ์ของการเคลื่อนไหวนั้นมากกว่า ทั้งๆที่มีหลายเหตุการณ์ก่อนหน้า..ที่นำไปสู่ช่วงตอนนั้นๆ
ตัวอย่างเช่น นักประวัติศาสตร์เห็นว่าตลาดหุ้นแครชเมื่อเดือนตุลาคม 1929 เป็นจุดเริ่มของ The Great Depression ทั้งๆที่ตลาดหุ้นลอนดอนพังเมื่อเดือนกันยายนก่อนหน้า ...ประเด็นคือ มันมีอีเว้นท์สำคัญหลายเรื่องที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์การเกิดแครชครั้งนั้น
ตอนนี้ก็กำลังจะมีเทรนด์ใหญ่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเราเลย ..นั่นคือ การปฏิวัติสังคมนิยมแบบโมเดิร์น
ผู้คนกำลังเห่อเข้าร่วมกับอำนาจใหม่ที่เชื่อในระบบรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง..การเก็บภาษีที่อัตราสูงและการแปลงธุรกิจอุตสาหกรรมเอกชนเป็นของชาติ ......ความมั่งคั่งส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ต้องปฏิวัติ
เราเคยพูดกันถึงเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ทฤษฎีหรือแนวคิดอีกต่อไป มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว การปฏิวัติเริ่มแล้ว
ที่จริงมันได้เกิดหลายเหตุการณ์ที่นักประวัติศาสตร์ในอนาคตจะเรียกมันว่าเป็นจุดหักเหที่เริ่ม Modern Socialist Revolution ในครั้งนี้ ..นับรวมถึงตอนที่ Bernie Sanders ประกาศว่าจะลงชิงประธานาธิบดีในปี 2020
แต่ก็มีอีกหนึ่งเหตุการณ์ย่อย ตอนที่ Amazon ยอมแพ้ต่อฝ่าย Socialist เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ Amazon ยกเลิกแผนจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์คซิตี้
การขยายงานมาที่นิวยอร์คจะเป็นการขยายงานเงินเดือนสูงมากถึง 25,000 ตำแหน่ง ภาษีเงินได้เข้านครนิวยอร์คอีกถึงกว่า $10,000 ล้าน มีพื้นที่เหลือให้สร้างโรงเรียนและโรงเลี้ยงเด็กอีกต่างหาก
ในการแลกเปลี่ยน เมืองนิวยอร์คก็อาจให้เครดิตทางภาษีซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากแก่บริษัท
แต่...พวกโซเชียลลิสต์ก็อดที่จะพูดมากไม่ได้ ..พวกเขาไม่ชอบเหล่านายทุนอย่าง Amazon เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่จะมาสร้างความร่ำรวยเพิ่มขึ้น
พวกเขาไม่หยุดคิดสักนิดว่า ดีลนี้น่ะ มัน WIN/WIN ทั้งสองฝ่าย ...ฝ่าย Amazon ก็วิน ฝ่ายมหานครก็วิน
พวกโซเชียลลิสต์จะมีความสุขถ้าเป็นดีลที่ WIN/LOSE นั่นคือพวกเขาต้องวินฝ่ายเดียว พวกคุณต้องเจ๊ง ...ไม่งั้นก็ไม่เอา
ดังนั้นพวกเขาจึงเห่าหอนไปเรื่อยๆ ..จนกระทั่ง Amazon ทนไม่ไหว เดินจากไป
เรื่องนี้นับเป็นตัวอย่างของ WIN/LOSE ที่ดีเรื่องหนึ่งเลยแหละ
ก่อนที่จะมีการออกมาโวยวายกัน ..Amazon เสนอจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในย่าน "Opportunity Zone" ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะได้รับสิทธิ์ทางภาษีจากการลงทุน $2,500 ล้านในนครนิวยอร์ค
พวกโซเชียลลิสต์ก็โวยทันทีว่านี่มันไม่ยุติธรรม ..Amazon ไม่ควรได้รับสิทธิ์ภาษีในเขตนี้ เพราะมันเป็นสิทธิ์เฉพาะของคนจนเท่านั้น
เรื่องของเขตพิเศษนี้ หลักการพื้นฐานของมันคือ ผู้ว่าการรัฐในทุกรัฐของอเมริกาสามารถกำหนดให้พื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งในรัฐของตน เป็นเขต "Opportunity Zone" ....แต่บริเวณนั้นต้องมีคนยากจนอยู่อย่างน้อย 20% ..และรายได้ของครอบครัวต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของคนท้องถิ่นอย่างน้อย 20%
กฏหมายรัฐบาลกลางกำหนดให้สิทธิ์ทางภาษีแก่ผู้ที่ลงทุนระยะยาวในเขต opportunity zone นี้ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มธุรกิจหรือการขยายพื้นที่
นี่เป็นการช่วยให้ชุมชนที่ด้อยพัฒนาจะได้รับโอกาสจากตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้น สวัสดิภาพในท้องที่มากขึ้น โอกาสทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มรายได้ทางภาษี etc.
และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนต่อความเสี่ยงทางธุรกิจ นักลงทุนจะได้สิทธิ์ทางภาษีมากขึ้น
เป็นการ WIN/WIN ทั้งสองฝ่าย
คุณๆก็คงคิดว่า ประชนคงจะดีใจและรู้สึกเป็นบุญคุณที่นักลงทุนยอมเสี่ยงเงินทุนของตนเพื่อเข้าช่วยพัฒนาชุมชนไปด้วยในตัว
เปล่าเลย พวกโซเชียลลิสต์ไม่สามารถหุบปากได้ พวกเขายอมรับไม่ได้ว่าชุมชนจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ ..เพราะคนอื่นจะเป็นฝ่ายได้ความนิยมไป
พวกเขาจะแฮปปี้มากถ้าได้ทุกอย่างมาฟรีๆ โดยนักลงทุนไม่ได้อะไรเลย
นั่นคือ WIN/LOSE ...และนั่นดูเหมือนจะเป็นพื้นฐานของ Socialist
ถ้าผู้ที่จะได้ผลประโยชน์อะไรก็ตามเป็นคนร่ำรวยหรือเป็นบริษัทใหญ่ พวกเขาจะต้องหยุดดีลนั้นให้ได้ในทุกวิถีทาง ถึงแม้ตัวเองจะต้องพังก็ตาม
ตอนนี้ Amazon ก็ถอยแล้ว ..โซเชียลลิสต์ก็สูญเสียเต็ม 100% ..ทุกฝ่ายเสียหมด
แต่โซเชียลลิสต์ก็บ้าพอที่จะบอกว่านี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนจะดีใจมากที่ได้พังฝ่ายของตน แต่คิดว่าได้ทำลายพวกนายทุนแล้ว
ทำให้นึกถึงโจ๊กโซเชียลลิสต์เก่าๆเรื่องหนึ่งสมัยโซเวียตขึ้นมาได้
ชายรัสเซียคนหนึ่งเดินไปสะดุดเอาตะเกียงโลหะเก่าๆดวงหนึ่ง เขาหยิบขึ้นมาแล้วเช็ดมัน ทันใดนั้นก็มียักษ์จินนี่โผล่ขึ้นมา พูดว่า .."ข้าคือจินนี่สัญชาติคอมมูนิสต์ เพราะงั้นข้าจะให้พรแค่ข้อเดียว ..และไม่ว่าเจ้าจะขออะไร เพื่อนของเจ้าจะได้รับเป็นสองเท่า"
ชายคนนั้นหยุดคิดและพูดว่า "ข้าขอให้ข้าตาบอดหนึ่งข้าง"
นี่คือ modern socialism ที่กำลังจะเข้า take อเมริกาอยู่ตอนนี้: ทุกคนเป็นฝ่ายแพ้กันหมด ......การปฏิวัติเริ่มแล้ว
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/