หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2561 - ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 จากความกังวลด้านภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด
อีกทั้งนักลงทุนยังซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดในสัปดาห์หน้า
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 21 ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 แท่น แตะระดับ 883 แท่น ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
- ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบราว 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังส่งผลให้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้ารัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการผลิตน้ำมันราว 11.4 และ 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
- การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันดิบในระยะนี้
+ นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก กล่าวว่า โอเปกเตรียมที่จะเปิดเผยรายละเอียดของโควต้าในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่ากลุ่มโอเปกจะมุ่งมั่นในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินล้นตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอินโดนิเซียที่ยังคงนำเข้าน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคลดลง ขณะที่อุปทานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกัน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
กลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง หลังเศรษฐกิจจีนและยุโรปค่อนข้างซบเซา ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังธนาคารกลาง(เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
อุปทานน้ำมันดิบโลกคาดปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก คาดว่าแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของลิเบียจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีลิเบียสามารถตกลงกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธได้สำเร็จ หลังกองกำลังติดอาวุธเข้าบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ต้องประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) ยกเลิกการส่งน้ำมันดิบจากแหล่งผลิต
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโรงกลั่นดำเนินการด้วยอัตราการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับอุปทานน้ำมันดีเซลและอากาศยานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
Cr.ฐานเศรษฐกิจ
สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/