ประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีจีนตกลงระงับการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กัน "เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน" สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
พบหารือและรับประทานอาหารร่วมกัน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ "จี20" ที่กรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ไม่มีการแถลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวจากททั้งสองฝ่ายระบุว่า ผู้นำสหรัฐและผู้นำจีน "เห็นชอบร่วมกันเชิงหลักการ" ในการระงับการตั้งกำแพงภาษีต่อกันเป็นเวลา "90 วัน" แล้วใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการเจรจากัน "อย่างมีประสิทธิภาพ" เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย "แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลง" หากการหารือในระหว่างนั้น "ไม่ประสบผลสำเร็จ"
แม้การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวแม้เพียงเบื้องต้นแต่หมายความว่า รัฐบาลวอชิงตันจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6.6 ล้านล้านบาท ) จากอัตราปัจจุบันที่ 10% ให้เพิ่มเป็น 25% นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 ส่วนแหล่งข่าวในรัฐบาลปักกิ่งให้ข้อมูลว่า จีนจะเพิ่มการซื้อสินค้าด้านพลังงาน ผลิตภัณฑ์เกษตรและสินค้าอื่นจากอเมริกา แต่ไม่มีการระบุปริมาณและมูลค่าอย่างชัดเจน โดยรัฐบาลปักกิ่งจะระงับการใช้มาตรการกำแพงภาษีต่อสหรัฐเช่นกัน ตราบใดที่อีกฝ่ายยังคงรักษาคำมั่นสัญญา
ทั้งนี้ ทรัมป์ขึ้นภาษีหลายอัตราต่อมูลค่าการนำเข้าสินค้าของจีนไปแล้ว 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 8.25 ล้านล้านบาท ) ตั้งแต่เดือนก.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าของสหรัฐที่มีมูล่าการนำเข้าอย่างน้อย 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.63 ล้านล้านบาท )
ขณะที่กลุ่มสมาชิกจี20 ร่วมด้วยสหภาพยุโรป ( อียู ) ออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยยอมรับว่าบรรดาสมาชิกยังมี "จุดยืนที่แตกต่างกันในหลายประเด็น" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า สภาพอากาศ และการปฏิรูปองค์การการค้าโลก ( ดับเบิลยูทีโอ ) โดยในการประชุมวันแรก จีนซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของกลุ่มเศรษฐกิจ "บริคส์" ที่มีสมาชิกร่วมนอกจากรัฐบาลปักกิ่ง ได้แก่ บราซิล รัสเซีย แอฟริกาใต้และอินเดีย วิจารณ์มาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐอย่างหนัก พร้อมทั้งแสดงความสนับสนุนการดำเนินงานของดับเบิลยูทีโอ.
Source: เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/foreign/680327
*******************************
สี จิ้นผิง ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่บัวโนสไอเรส ขณะทั่วโลกจับตาผลเจรจาปลดล็อกการค้า: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รับประทานอาหารค่ำร่วมกันที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาว่าผู้นำทั้งสองจะแก้ปัญหาความตึงเครียดทางการค้าระหว่างกันได้หรือไม่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ดูเหมือนจะต้องการให้จีนมีการปฏิรูปอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงเรื่องของการขโมยเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาจากสหรัฐ ขณะที่ปธน.สี คาดว่าอาจยอมรับข้อเรียกร้องจากทางการสหรัฐบางส่วนเพื่อยุติสงครามการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงอยู่ตอนนี้
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองเคยพบกันมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยในขณะนั้น ปธน.สี ได้ให้คำมั่นกับปธน.ทรัมป์ว่า จีนจะนำเข้าสินค้าจำนวนมากจากสหรัฐ เพื่อแก้ปัญหาที่สหรัฐต้องขาดดุลการค้าเป็นจำนวนเงินมหาศาลให้กับจีน
อย่างไรก็ดี จีนและสหรัฐได้เริ่มเปิดฉากตอบโต้กับด้วยสงครามภาษีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเสื่อมถอยลงเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลกันว่าอาจเป็นชนวนไปสู่การเกิดสงครามเย็นครั้งใหม่
จนถึงตอนนี้ สหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแล้ว 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นราวๆครึ่งหนึ่งของสินค้าทั้งหมดที่สหรัฐนำเข้าจากจีนในแต่ละปี เพื่อตอบโต้ที่จีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีจากสหรัฐไปเป็นจำนวนมาก ทำให้จีนต้องออกมาตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐกว่า 80% ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังขู่ว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมด หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงการค้ากับปธน.สี ได้
นักเศรษศาสตร์หลายรายได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลกันว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นไปทุกทีนั้น จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะเริ่มฟื้นตัวอยู่ในตอนนี้
ขณะที่นังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า สหรัฐและจีนกำลังมองหาช่องทางทำข้อตกลงการค้าที่จะทำให้สหรัฐไม่เรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อจีนเพื่อแลกกับการเจรจาครั้งใหม่กับจีนเพื่อให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ด้านปธน.ทรัมป์ ก็ได้ออกมาส่งสัญญาณดีต่อการเจรจาการค้ากับจีนครั้งนี้ ด้วยการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "เราทำงานกันหนักมาก"
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "มันจะดีมากถ้าเราตกลงกันได้ ซึ่งผมคิดว่าพวกเขาก็หวังจะให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน และผมว่าเราจะต้องทำมันได้" พร้อมเสริมว่า "มีสัญญาณที่ดีบางอย่างออกมา และเราก็จะได้เห็นกัน"
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์
ความคืบหน้าล่าสุด
สหรัฐและจีนตกลงเลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไปอีก 90 วันเพื่อมีเวลาเจรจาต่อรอง
- G20: US and China agree to suspend new trade tariffs :
https://www.bbc.com/news/world-latin-america-46413196
Cr.Sayan Rujiramora
สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/