มีรายงานจากรอยเตอร์อ้างถึงอดีตพนักงานยาฮู (Yahoo) ระบุว่า ระบบของยาฮูเมลถูกสอดแนมโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาอย่าง NSA (National Security Agency) หรือ FBI โดยการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อสแกนอีเมลที่เข้ามายังระบบทั้งหมด
แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ข้อมูลใดที่ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวต้องการค้นหา แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ระบุว่า เป็นชุดคำชุดหนึ่ง ซึ่งต้องสแกนจากเนื้อหาอีเมล และไฟล์ที่แนบมาด้วย
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า โปรแกรมดังกล่าวถูกค้นพบโดยทีมซีเคียวริตี้ของยาฮูในเดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากที่ถูกติดตั้งลงไป ซึ่งพนักงานในขณะนั้นเชื่อว่าแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบเข้ามาได้
แต่ทันทีที่ Alex Stamos หัวหน้าทีมซีเคียวริตี้ของยาฮู พบว่า ซีอีโออย่างมาริสสา เมเยอร์อนุญาตให้มีการติดตั้งโปรแกรม เขาก็ขอลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารด้านระบบซีเคียวริตี้ทันที ซึ่งช่องโหว่ของโปรแกรมนี้ Stomos เคยระบุไว้ว่า แฮกเกอร์สามารถใช้เจาะเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บอีเมลได้เลย
ปัจจุบัน Stamos ทำงานอยู่กับเฟซบุ๊ก และไม่ขอตอบคำถามใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว
การออกมาเปิดเผยของแหล่งข่าวดังกล่าวทำให้สื่อหลายสำนักนึกย้อนไปถึงกรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ซึ่งกรณีของยาฮูก็มีความคล้ายคลึงกัน และแสดงให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐอเมริกาหนีไม่พ้นที่จะถูกสอดแนมโดยหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศ
ด้านอัยการ Patrick Toomey ออกมาเผยว่า การทำตามคำสั่งของรัฐบาลในกรณีของยาฮูเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
"กรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดนได้ทำให้ผู้บริโภคต่างฝากความหวังไว้กับบริษัทเทคโนโลยีที่จะยืนหยัดต่อต้านการสอดแนม เพราะตัวผู้ใช้บริการเองต่างไม่มีแรงพอที่จะต่อต้านการสอดแนมเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง"
นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ยาฮูยังเจอเหตุการณ์แฮกเกอร์เจาะระบบที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ 500 ล้านคนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อชื่อเสียงและการขายธุรกิจหลักให้กับเวอไรซอนในราคา 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐอย่างมากทีเดียว
Cr.www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000100078
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman