ถ้าไทย ดอกเบี้ย 5% เท่าสหรัฐอเมริกา จะเกิดอะไรขึ้น ?

ถ้าไทย ดอกเบี้ย 5% เท่าสหรัฐอเมริกา จะเกิดอะไรขึ้น ? /โดย ลงทุนแมน อัตราดอกเบี้ย 5% ประเทศไทยเคยมีมาแล้ว ตัวเลขนี้ไม่ไกลเกินฝัน หัวข้อที่น่าสนใจคือ ถ้าสมมติให้วันนี้ ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยที่ 5% มันจะเกิดอะไรขึ้น ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเราช่วงนี้ คือทุนต่างชาติไหลออกจากทั้งตลาดหุ้น และตราสารหนี้
เฉพาะตลาดหุ้นไทย ปีนี้ ต่างชาติขายไปแล้ว 150,000 ล้านบาท เงินบาทไทยอ่อนค่าจนล่าสุดทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว
หนึ่งในท่าประจำ ที่จะช่วยให้ทุนต่างชาติกลับมา ก็คือ การขึ้นดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มแรงจูงใจจากผลตอบแทนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
บทความนี้ ลงทุนแมนจะลองยกตัวอย่างเล่น ๆ ว่าถ้าสมมติวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ขึ้นดอกเบี้ย ไปเท่ากับสหรัฐอเมริกา ที่ 5.5%
ที่อัตราดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ เศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นแบบตรงไปตรงมา ก็คือ ค่าเงินบาท จะชะลอการอ่อนค่าลง
จากข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ดอกเบี้ยบ้านเรา 2.5% ดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกา 5.5% ต่างกันถึง 3%
หากเราขึ้นดอกเบี้ย ไปเท่ากับสหรัฐอเมริกา ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยตรงนี้ จะกลายเป็นศูนย์
ถ้าเป็นแบบนี้ ทุนต่างชาติบางส่วน ก็อาจจะหยุดไหลออกจากสินทรัพย์ไทย ค่าเงินบาทจึงน่าจะชะลอการอ่อนค่าลง
เรื่องเป็นแบบนี้ก็ดูเหมือนจะดี
แต่สิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจไทย กำลังจะเกิดดังต่อไปนี้..
ตัวเลขดอกเบี้ยจาก 2.5% ไป 5.5% ดูเหมือนเป็นตัวเลขไม่มากในสายตาของบางคน แต่ในมุมของคนจ่ายดอกเบี้ย มันคือการเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เช่น จากจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 25,000 บาท จะเป็น 55,000 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะไม่สามารถจ่ายได้ เพราะรายได้ของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นก็คือ
1. ประชาชนต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น
คนกู้ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ ซื้อรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ จะต้องผ่อนค่างวดสูงขึ้น หากรายได้ของเราเพิ่มขึ้นไม่พอ ตัวเราก็จะได้รับผลกระทบเต็ม ๆ
หรือหากว่าเราเป็นคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ หลายคนน่าจะชะลอการซื้อออกไปก่อน ดังนั้นธุรกิจที่ขายของชิ้นใหญ่ ที่คนส่วนใหญ่ต้องใช้เงินกู้ในการซื้อ ก็จะชะลอการซื้อ และธุรกิจเหล่านั้นจะได้รับผลกระทบ..
2. ต้นทุนการเงินของภาครัฐ รวมถึงบริษัทเอกชน จะเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน ดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ที่ 2.5%
- ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี อยู่ที่ 2.6%
- ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทเอกชน เรตติง AAA 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ราว 3.7%
หากดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นอีก 3% เป็น 5.5% ภาระดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทย และดอกเบี้ยหุ้นกู้เอกชน ที่ออกใหม่ ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ในขณะที่บริษัทเอกชน ที่ต้องกู้ยืมเงินอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาโครงการ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ถ้าราคาบ้าน ราคาคอนโดฯ ไม่เพิ่มตาม กำไรของกลุ่มธุรกิจนี้ก็จะลดลง
นอกจากนั้น สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อให้รายย่อย เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต ที่ต้องระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้
ถ้ารายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจชนเพดานสูงสุดของกฎหมายแล้ว ก็จะทำให้กำไรของธุรกิจกลุ่มนี้ลดลงเช่นกัน
นอกจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยแล้ว ก็ยังมีเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุนด้วย เช่น การสร้างห้างสรรพสินค้า โรงไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ
ซึ่งโครงการเหล่านี้จะต้องพึ่งพาเงินกู้ยืมสูง เมื่อดอกเบี้ยต่ำ โครงการจะมีผลตอบแทนที่ดึงดูดให้ลงทุน
แต่พอดอกเบี้ยสูง โครงการที่กำไรบาง พอนำมาคำนวณต้นทุนการเงินใหม่ อาจจะขาดทุน จนต้องยุบโครงการไป หรือถูกเลื่อนออกไปก่อน
พอโครงการลงทุนลดลง สิ่งที่ตามมาก็คือ การจ้างงานจะไม่เกิด ค่าแรงจะไม่เพิ่ม รวม ๆ แล้วเศรษฐกิจทั้งประเทศ จะชะลอตัวลง
สำหรับบางบริษัท ที่ต้องการแสวงหาผลกำไร และการเติบโต ที่ต้องลงทุนอยู่ตลอดเวลา ก็จะมีแนวโน้มที่จะหันไปลงทุนในโครงการที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนชดเชยกับต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น
3. ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลง
ถ้าถามว่า ดอกเบี้ย เกี่ยวอะไรกับ ตลาดหุ้น ?
ยกตัวอย่างเช่น แต่เดิมหลายคนลงทุนในตลาดหุ้น เพราะหวังเงินปันผลปีละ 4% เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากที่ 1% ก็ดูเหมือนจะคุ้มค่าความเสี่ยงของหุ้น
แต่ถ้าเราฝากเงินในธนาคาร โดยมีความเสี่ยงต่ำ แล้วได้ดอกเบี้ย 5.5% ก็จะทำให้คนย้ายเงินจากหุ้น กลับมาฝากธนาคารแทน
ดังนั้นราคาหุ้นจะต้องปรับตัวลงมา ให้ผลตอบแทนต่อราคาหุ้น ดึงดูดมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือ P/E เฉลี่ยของตลาดจะลดลง
พูดถึงผลกระทบกันแล้ว คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วใครจะได้ประโยชน์กับการขึ้นดอกเบี้ยกันบ้าง ?
- คำตอบแรก ก็คือ ธนาคารพาณิชย์ อาจได้ประโยชน์บ้าง
โดยเฉพาะธนาคาร ที่มีสินเชื่อดอกเบี้ยลอยตัวเป็นสัดส่วนที่สูง
เพราะธนาคารจะได้ประโยชน์จากผลต่างดอกเบี้ยสุทธิ หรือ Net Interest Margin กว้างขึ้น และผลต่างที่เพิ่มขึ้นตรงนี้ จะไหลลงไปเป็นกำไรทันที
แต่การชะลอโครงการของภาครัฐและเอกชน ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็อาจทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อลดลง หรือช่วงที่ดอกเบี้ยสูง ย่อมทำให้มีหนี้เสียจากธุรกิจที่ไปต่อไม่ไหวมากขึ้น ทำให้สุทธิออกมาแล้ว กำไรของธนาคารอาจไม่เพิ่มขึ้นก็เป็นได้
- อีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ก็คือ บุคคลหรือบริษัท ที่มีเงินสดอยู่มาก และชอบสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
บริษัทที่มีเงินสดมาก เช่น บริษัทประกัน ที่มีสินทรัพย์ลงทุนอยู่ในพันธบัตร พันธบัตรที่จะออกในชุดใหม่ ๆ ก็จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าของเก่า แต่ต้องหมายเหตุว่าพันธบัตรระยะยาวที่ถืออยู่ ก็อาจมีราคาลดลงจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งบริษัทก็ต้องถือจนครบกำหนดอายุ โดยได้รับดอกเบี้ยของเดิม
ส่วนผู้สูงอายุที่ชอบฝากเงินในธนาคาร ก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เช่น จากเดิมที่ได้ดอกเบี้ย 25,000 บาท พอดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็จะได้เป็น 55,000 บาท
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงการสมมติว่า หากดอกเบี้ยประเทศไทย ขึ้นมาเท่ากับสหรัฐอเมริกา ที่ 5.5% จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าถามว่าในอดีต ประเทศไทยเคยมีดอกเบี้ยในระดับนี้ไหม ?
ก็ต้องตอบว่า “มี” ประเทศไทยเคยมีดอกเบี้ยที่ระดับ 5% ในปี 2006 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤติซับไพรม์
ดังนั้นอัตราดอกเบี้ย 5.5% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ไม่ได้ไกลเกินฝัน เพราะในอดีตก็เคยมีอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้มาแล้ว
การคิดเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้น แล้วมีแผนเตรียมรับมือกับเหตุการณ์นั้น เป็นสิ่งที่นักลงทุนผู้มีประสบการณ์มักจะทำกัน
เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ มันอาจเกิดขึ้นในชีวิตของเราสักวันหนึ่ง ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวเรา เร็วกว่าที่คิด ก็เป็นได้..
Source: ลงทุนแมน

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact

230424 icm 100x33

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"