มินิซีรี่ส์เรื่องทอง 1 ทำไมทองถึงโงหัวไม่ขึ้น?

ปีที่แล้ว ทองทำท่าจะดี แต่มาโดนทุบในช่วงปลายปี ทำให้ทองคำหัวขม้ำอย่างไม่เป็นท่า ในปีนี้คนเริ่มเชื่อว่าทองน่าจะกลับมาดีอีกครั้ง แล้วจะผิดหวังกันอีกหรือไม่?

ขึ้นอยู่กับว่านักทุบทองที่ตลาด Comex จะเอาอย่างไร ราคาทองคำถูกควบคุม หรือถูกปั่นอย่างเข้นข้นมาตลอดโดยผู้เล่นรายใหญ่
ใครที่บอกว่าตลาดทองคำถูกควบคุม หรือถูกปั่นจะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกสมคบคิด ตลาดทองคำใหญ่อย่างนั้นใครจะไปคุมได้
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปดังนี้

พวกที่คุมธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางอังกฤษหรือระบบการเงินโลกไม่ชอบทอง เพราะว่าทำให้พิมพ์เงินตามอำเภอใจไม่ได้
ในอดีตก่อนที่จะมีการยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำในปี ค.ศ.1971 เงินที่พิมพ์ออกมาต้องมีทองคำหรือเงิน (silver) รองรับ มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงกระดาษเปล่าๆ ธนาคารกลางจึงจำเป็นต้องมีทองหรือเงินสำรอง แล้วพิมพ์เงินกระดาษออกมาตามสัดส่วนของทองหรือเงินสำรองที่มี โดยอาจจะสำรอง100% หรือ 50%ก็ได้ ยิ่งมีสำรองทองสูง คนที่ถือเงินกระดาษยิ่งมั่นใจเพิ่มมากขึ้นในความน่าเชื่อถือของค่าเงิน เพราะว่ามีทรัพย์สินทองคำหรือเงินหนุนหลัง

เขาเรียกระบบการเงินนี้ว่ามาตรฐานทองคำ (Gold Standard)
คำว่า ”เงิน” ที่เราใช้กันทุกวันนี้ มาจากแร่เงินที่รัฐบาลสยามสำรองในท้องพระคลังเพื่อหนุนเงินเงินเหรียญ หรือเงินธนบัตรที่พิมพ์ออกมานั้นเองในยุคมาตรฐานเงิน (Silver Standard)

ข้อดีของระบบมาตรฐานทองคำ หรือมาตรฐานเงิน คือวินัยทางการเงินของประเทศ เพราะว่าธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลัง จะไม่พิมพ์เงินออกมามากเกินไป ซึ่งจะมีผลทำให้ค่าเงินเสื่อม หรือทำให้เกิดเงินเฟ้อ

การเสื่อมค่าของเงิน หรือเงินเฟ้อ เป็นปรากฎการณ์ของนโยบายการเงินที่ไม่มีวินัย หรือการพิมพ์เงินเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่ซับไพลหรือดีมานด์ในระบบยัคงที่ แต่ธนาคารกลางของสหรัฐฯหรืออังกฤษ จะแอบพิมพ์เงินเพิ่มเกินทองคำสำรองในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพราะว่ารัฐบาลมีการใช้จ่ายเกินตัวทางการคลัง และแอบเตรียมเงินเอาไว้ในการทำสงคราม

ในช่วง The Great Depression สหรัฐฯมีการพิมพ์เงินดอลล่าร์มากเกินไป ทำให้นักลงทุนแห่ไปแลกดอลลาร์เป็นทองมาถือไว้ แลกมากๆ ธนาคารกลางสหรัฐฯเจ๊ง ในปี 1933ประธานาธิบดีรูสเวลต์จึงออกประกาศห้ามไม่ให้คนอเมริกันถือครองทอง ใครถือทองจะนับว่าฝ่าฝืนกฎหมาย จะโดนทั้งปรับทั้งจับติดคุก และให้คนอเมริกันเอาทองมาแลกกับกระทรวงคลังที่ $20 ต่อออนซ์

หลังจากได้ทองมาแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯลดค่าเงินสหรัฐฯเทียบทองทันทีเป็น $35 ต่อออนซ์ เท่ากับว่าคนอเมริกันโดนปล้นกลางวันแสกๆ พวกรัฐบาลและพวกนายธนาคารกลางรวยไป

ราคาทองคำนี้ยืนหยัดมานานจนถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการก่อตั้งระบบการเงินโลกใหม่ที่รู้จักกันว่าระบบเบรตตันวูดส์
ภายใต้ระบบเบรตตันวูดส์นี้ ค่าของดอลล่าร์จะอิงกับทองคำที่ระดับ $35 ต่อออนซ์ เงินดอลลาร์เป็นเงินสกุลหลักของโลกแทนเงินปอนด์ การค้าขายระหว่างประเทศใช้ดอลลาร์เป็นหลัก ธนาคารกลางประเทศต่างๆ สามารถถือดอลลาร์เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศแทนทองได้ เพราะว่าธนาคารกลางสหรัฐฯรับประกันราคาทองที่ $35 ต่อออนซ์

มีการจัดตั้งธนาคารโลกเพื่อช่วยประเทศด้อยพัฒนา หรือประเทศที่กำลังฟื้นจากภาวะสงครามโลก โดยให้ไฟแนนซ์ในโครงการพื้นฐาน และมีการจัดตั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาดุลชำระเงิน หรือเงินทุนไหลออกจากประเทศอย่างกระทันหันทีละมากๆ ค่าเงินตกต่ำอย่างรุนแรง เกิดวิกฤติทางการเงิน กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะเอาดอลลาร์ไปให้กู้ แลกกับการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อให้ต่างชาติเข้าไปถือครองทรัพย์สินในประเทศนั้นได้

ช่วงปลาย 1950s สหรัฐฯมีการพิมพ์ดอลลาร์มาก ธนาคารกลางของประเทศต่างๆเอาดอลลาร์ที่ถือมาแลกทองคำคืน เพราะว่าไม่มั่นใจในค่าเงินดอลลาร์ ทำให้สำรองทองคำของรัฐบาลสหรัฐฯหายไปถึง 1 ใน 3

พวกนักการเมืองในสภาคองเกรสมีการถกกันหนักว่าจะเปลี่ยนการบริหารทองคำสำรองที่ตรึงระดับที่ราคา $35 ต่อออนซ์อย่างไร เพราะว่าเอาไม่อยู่แล้ว

หลังจากนั้นมีการจัดตั้งลอนดอนโกลด์พูล (The London Gold Pool) ในปี 1961 มี 7ประเทศเข้าร่วมในการซื้อขายทองในระดับ $35 ต่อออนซ์ เพื่อแบ่งเบาภาระของสหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อที่จะชะลอการไถ่ถอนทองจากรีเซิร์ฟของธนาคารกลาง หรือกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ

แต่โครงการลอนดอนโกลพูลต้องยกเลิกไปในปี 1968 หรือเพียง 7 ปีหลังจากการก่อตั้ง เพราะว่ามีการไถ่ถอนทองมากกว่าที่จะรับมือได้ เนื่องการความไม่มีวินัยทางการเงินการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯโดยเฉพาะนั้นเอง ที่กำลังพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อก่อสงครามเวียดนาม
ด้วยเหตุนี้สหรัฐฯถูกลอยแพให้ดูแลค่าเงินดอลลาร์และราคาทองที่ระดับ $35 ต่อออนซ์เพียงประเทศเดียว

มาถึงสมัยของประธานาธิบดีนิกสันจึงมีการยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำ โดยสหรัฐฯปิดหน้าต่างแลกทองในวันที่ 15 สิงหาคม 1971 ตั้งแต่บัดนั้น ผู้ที่ถือดอลลาร์ไม่สามารถไปไถ่ถอนทองจากธนาคารกลางสหรัฐฯได้อีก ให้ถือว่าดอลลาร์มีค่า เพราะความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯในการเก็บภาษี หรือการบริหารประเทศ ให้เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงก็แล้วกัน

ตั้งแต่บัดนั้น โลกได้ออกจากระบบมาตรฐานทองคำเข้าสู่ระบบมาตรฐานดอลลาร์ (Dollar Standard) หรือระบบเงินกระดาษ (fiat monetary system) ที่พิมพ์ออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง

ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1975 ชาวอเมริกันได้รับสิทธิเสรีภาพอีกครั้งที่จะครอบครองทอง โดยรัฐบาลได้ยกเลิกการห้ามถือครองทองที่มีมาตั้งแต่ปี 1933

แต่ก่อนที่จะยกเลิกการห้ามถือครองทอง มีสิ่งที่สำคัญมากเกิดขึ้น คือในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ตลาด Commodity Exchange Inc หรือรู้จักกันดีว่าตลาด Comex เริ่มที่จะมีการเทรดทองคำฟิวเจอร์ หรือการซื้อขายทองคำเพื่อส่งมอบในวันที่กำหนดในอนาคต
ตราสารอนุพันธ์ทองคำกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สมบูรณ์สุด ที่ทำให้พวกนายธนาคารกลางแก้ไขปัญหาการไถ่ทอง หรือความไม่เชื่อมั่นในค่าเงินที่ตัวเองพิมพ์ออกมาอย่างล้นเหลือได้ เทียบเท่ากับศาสตร์ alchemy หรือศาสตร์ที่เปลี่ยนโลหะให้เป็นทอง ซึ่งเป็นศาสตร์ที่นักเคมีหรือนักวิทยาศาสตร์สมัยโบราณพยายามคิดและทดลอง แต่ไม่สำเร็จ

วิกิลีกส์ได้เอาข้อมูลมาเผยแพร่ในรายงาน "Public Library of US Diplomacy" ในนั้นมีข้อเขียนในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ.1974 ที่ส่งทางเคเบิลว่า:

“จะมีการสร้างตลาดทองคำฟิวเจอร์ที่ใหญ่ตามความคาดหมายของดีลเลอร์ทุกคน ดีลเลอร์แต่ละคนต้องแสดงออกถึงความเชื่อที่ว่า ตลาดทองคำฟิวเจอร์จะมีขนาดใหญ่ ส่วนการเทรดทองคำแท่งจะเล็กกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่ต้องแสดงความเห็นออกไปคือปริมาณการเทรดทองคำฟิวเจอร์จะทำให้ตลาดมีความผันผวนอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองที่ผันผวน จะทำให้เกิดการลดการถือทองคำแท่งลง และจะทำให้มีแนวโน้มว่าคนอเมริกันจะไม่ถือครองทองในระยะยาว”

ใครที่เชื่อว่ากลไกเทรดทองในตลาดทองฟิวเจอร์ ต่อเนื่องมากับการเทรดทองคำแท่ง เป็นไปอย่างบริสุทธิยุติธรรม ปราศจากการควบคุม หรือการปั่น เพื่อปกป้องการพิมพ์เงินกระดาษออกมาโดยไม่อั้น ให้คิดใหม่

https://www.sprottmoney.com/Blog/42-years-of-fractional-reserve-alchemy-craig-hemke.html 

thanong
20/2/2017

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

230424 icm 100x33

IC Markets

ASIC 500 : 1 1 pips - Mini
1 pips - Stand
0 pips - ECN
$200 0.01 lot

View Profile

Visit website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"